คอลัมน์ “รอบบ้าน รอบเมือง” แห่งบ้านเมืองออนไลน์ ประจำวันเสาร์ที่ 30 มกราคม 2564
อย่าท้อแท้ หรือแม้แต่ คิดสิ้นหวัง
ทุกคนยัง ร่วมต่อสู้ กู้แก้ไข
เศรษฐกิจ อาจจะพัง ยังมิตาย
ร่วมกันหมาย ต้องต่อสู้ กู้โลกคืน
โควิดร้าย มินานไกล ตายจากโลก
อย่ามัวเศร้า อย่ามัวเศร้า ไร้จุดหมาย
เกิดมาแล้ว ล้วนต้องมี คราวดับไป
หลอมดวงใจ สู้ภัยร้าย ให้ยั่งยืน
ใช่โควิท ติดกันง่าย ตายมากล้น
ติดจากคน ที่ประมาท มิอาจฟื้น
ปล่อยแรงงาน มิตรวจเชื้อ สุดกล้ำกลืน
คนไม่เกี่ยว ต้องสะอื้น ฟืนจำทน
ให้โควิด ครั้งนี้เป็น ครั้งสุดท้าย
อย่าให้โรค แพร่กระจาย ทุกแห่งหน
จิตสำนึก นี้สำคัญ กว่าเรื่องตน
ให้ไทยพ้น ไทยมักง่าย เสียดายเอย
……………เบญจรงค์……….
** ในขณะที่กำลังเขียนข่าวอยู่ มีรายงานข่าวว่า ทั่วโลกติดโควิด-19 จำนวน 100 กว่าล้านคน ไม่อยากนึกเลยว่า มีผู้เสียชีวิตไปกี่รายแล้ว นึกแล้วขนลุกได้เพียงแต่สวดมนต์ไหว้พระขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกคนเคารพสักการะบูชาจะดีกว่า เพื่อให้เกิดจิตใจที่สงบสุขจะได้มีสมาธิในการต่อชีวิตกันต่อไป
** ขณะนี้มีหลายประเทศในโลกนี้ที่เริ่มการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว สำหรับในเมืองไทยก็ต้องฝากให้รัฐบาลที่มี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว. กลาโหม พร้อมด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว. กระทรวงสาธารณะสุข ต้องใช้วิจารญาณในการคัดเลือกวัคซีนโควิด-19 ว่าแหล่งผลิตจากประเทศใดที่ฉีดแล้วได้ผลและปลอดภัยมากที่สุด
** น่าเห็นใจคณะแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ซึ่งต้องเสียสละในการทำงานเพื่อมุ่งมั่นที่จะทำให้โควิด-19 ลดจำนวนลงถ้าเป็นไปได้ก็ขอให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทย ต้องขอบคุณและปรบมือเป็นกำลังใจให้กับทีมแพทย์และพยาบาลทุกท่าน
** และถ้าหากประชาชนที่มีจิตใต้สำนึกจะไม่ทำให้โควิด-19 ระบาดไปมากกว่านี้ และสงสารทีมแพทย์ที่ทำงานกันอย่างหามรุ่งหามค่ำก็ขอให้ความร่วมมือโดยความเคร่งครัดให้ใส่หน้ากากอนามัยที่มีความปลอดภัยไว้ตลอดเวลาที่ออกนอกบ้าน หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยเจลแอลกอฮอล์และสบู่ให้อยู่ห่างกันเข้าไว้อย่ามีการรวมกลุ่มโดยเด็ดขาด และงดจัดงานรื่นเริงทุกรูปแบบเพื่อลดจำนวนผู้ติดโควิด-19 จะได้ไม่มีการเสียชีวิตเกิดขึ้นที่ว่ากันมานี้ไม่ใช่เรื่องเล่นแล้ว ขอให้ทุกคนปฏิบัติด้วยความเคร่งครัด
** มีข่าวแจ้งมาจาก ศบค. ว่า ให้ใช้หน้ากากอนามัยที่มีมาตรฐานซึ่งวงการแพทย์ใช้กันและอย่าได้ใช้เฟสซิลเป็นกันขาดเนื่องจากละอองน้ำลายจะปลิวมาสู่ผู้คนที่อยู่ใกล้เคียงกัน และมีการแจ้งข่าวว่า ตอนนี้มีผู้คนที่เห็นแก่ได้โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของเชื้อโรค ได้มีการทำเจลแอลกอฮอล์ปลอมแล้ว และข้อระวังก่อนจะซื้อให้ดูให้ดีๆ ก่อนว่ามี อย. รับรองหรือเปล่า และข้อสำคัญอย่าทิ้งเจลแอลกอฮอล์ไว้ในรถที่ต้องตากแดดอยู่กลางแจ้ง เพราะจะเป็นอันตรายเกิดขึ้นได้
พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง เลขานุการประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และคุณไชยทร งามเกิดศิริ กรรมการผู้จัดการ ณ สยามแกลอรี่ ร่วมทำบุญตักบาตรพระ จำนวน 100 รูป และแจกผ้าห่ม ข้าวกล่องและอาหารแห้งแก่ผู้ด้อยโอกาสและคนจรจัด จำนวน 100 ชุด ณ หน้าวัดบวรนิเวศวิหาร
** มีผู้ร้องเรียนมาเป็นจำนวนมากว่า โครงการของรัฐบาลแต่ละโครงการไม่ว่าจะเป็นคนละครึ่งคนที่จะใช้ได้ต้องมีโทรศัพท์มือถืออย่างดี แถมซ้ำยังสร้างความวุ่นวายสับสนให้กับผู้ใช้จนบางรายที่ได้รับสิทธิยอมทิ้งสิทธิไป แล้วตระโกยดังๆ ตามมาว่า อย่างกับไปขอทานอย่างนั้น อีกโครงการหนึ่งคือ ผู้ได้รับสิทธิ 3,500 บาท 2 เดือน ทำไมรัฐบาลต้องมากำหนดกฎเกณฑ์ว่า ต้องไปซื้อของที่รัฐบาลกำหนดไว้ แทนที่มอบเงินไปแล้วก็ให้เป็นเรื่องความสะดวกของคนที่จะใช้เชื่อมั่นว่าในภาวะอย่างนี้คงไม่มีคนนำไปเล่นการพนันหรือซื้อเหล้ากินหรอกไม่ต้องเป็นห่วงเขาจนบางคนก็ระบายความออกมาว่า คนที่คิดโครงการนี้คิดได้อย่างไรทำให้คนวุ่นวายสับสน ลำบากลำบนกันเหลือเกิน ทั้งๆ ที่เงินที่รัฐบาลแจกมานี้ก็เป็นเงินจากภาษีของประชาชน ไม่ใช่เงินส่วนตัวของรัฐบาล โปรดจำไว้ด้วย
** กลายเป็นประเด็นร้อนจากกรณีบุคคลมีชื่อเสียงในวงการบันเทิงที่เป็น “ผู้ประกอบการ” และเป็น “ผู้นำเสนอสินค้า” ถูกหน่วยงานภาครัฐแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาเป็นผู้จำหน่าย และโฆษณาเกินจริงในสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพหลายรายการ โดยอวดอ้างว่าสามารถรักษาโรคได้ครอบจักรวาล เช่นโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดสมองตีบ แม้กระทั่งป้องกันโรคโควิด-19 ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณอีกมากมาย เช่นทำตาให้เป็นสองชั้น จมูกเข้ารูป ฯลฯ ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
** จากกรณีดังกล่าว จะเห็นได้ว่าสังคมไทยมีความเป็นวัตถุนิยมมากขึ้น จนกระทั่งผู้คนไม่เห็นความสำคัญของศีลธรรม และวัฒนธรรมที่ดีงาม น้ำใจไมตรีและการช่วยเหลือเกื้อกูลกันหายไป ความรับผิดชอบและจิตสำนึกต่อส่วนรวมน้อยลง จะมีแต่ความเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน มุ่งแต่หารายได้เพื่อสนองความต้องการของตนเอง เอาเปรียบ เบียดเบียนซึ่งกันและกัน จนถึงขนาดเฉยชากับความเดือดร้อนของผู้อื่น พฤติกรรมดังกล่าวแสดงถึงการ “ขาดคุณธรรม และจริยธรรม”
** สถานการณ์บ้านเมืองของเราในปัจจุบันน่าเป็นห่วงเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติโรคระบาด วิกฤติการเมือง เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมและยังมีความเสื่อมถอยด้านคุณธรรม จริยธรรมตั้งแต่ระดับนักการเมือง ข้าราชการ หรือบุคลากรในแวดวงอาชีพต่างๆ ทั้งนี้จิตสำนึกและความรับผิดชอบต่อส่วนรวมนับเป็นคุณธรรม จริยธรรมที่แสดงถึงความเป็นพลเมืองที่ดี ซึ่งจะก่อให้เกิดการอยู่ร่วมกันในสังคมด้วยความสงบสุข ดังนั้นยังไม่สายเกินไปที่พวกเราชาวไทยจะร่วมมือร่วมใจกัน “ปลุก” คนในชาติ และ “ปลูก” ฝังเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติให้มีคุณธรรม จริยธรรม สำนึกในหน้าที่และความรับผิดชอบของความเป็นพลเมืองดี เพื่อช่วยให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤติต่างๆตลอดจนพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืนต่อไป….ดร.ออร่า
** “…สีชัง ชังแต่ชื่อ เกาะนั้นหรือจะชังใคร…” นี่เป็นส่วนหนึ่งของบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทำนองโดยสง่า อารัมภีร บรรเลงโดยวงสุนทราภรณ์ ขับร้องครั้งแรกโดยหม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ หากพ้นช่วงกักตัวโควิด-19 ควรจะได้แวะไปเยี่ยมเยือน “เกาะสีชัง” แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีวังโบราณแหล่งวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์น่าศึกษา แต่คุณสมโภชน์ โตรักษา แห่งคอลัมน์หมายเลข 7 กับคุณพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้เคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่น ได้ไปเกาะสีชังมาแล้วก่อนหน้านี้ ไม่ได้ไปเที่ยว แต่ไปติดตามการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน ก่อสร้างปรับปรุงอ่างเก็บน้ำที่ใช้งานมากว่า 30 ปีบนเกาะสีชัง ความจุ 90,000 ลูกบาศก์เมตร เทศบาลตำบลเกาะสีชังทำโครงการปรับปรุง กรมทรัพยากรน้ำให้การสนับสนุนทำสัญญาจ้างเอกชนดำเนินการด้วยงบประมาณกว่า 31.7 ล้านบาทเศษ ส่งมอบงานต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2560 จากนั้นเปิดใช้งานกักเก็บน้ำได้ไม่กี่เดือน น้ำในอ่างซึมหายไปใต้อ่าง บางส่วนระเหยไป ไม่เหลือน้ำแม้แต่หยดเดียว ทั้งที่ในรางตื้นรับน้ำขอบอ่าง ยังมีน้ำเหลือไม่แห้งหายไปหมด จึงเกิดคำถามว่าใช้งานคุ้มค่าเงินแผ่นดินหรือไม่ ?! พร้อมกับข้อสงสัยของชาวเกาะว่าอ่างเก็บน้ำเกาะสีชังรั่วแล้วหรือไร ?! แม้กรมทรัพยากรน้ำพยายามแก้ไขปัญหา ก็ไม่เป็นผล ชาวเกาะยังคงขาดแคลนน้ำจืดจนปัจจุบัน ล่าสุดมีคำชี้แจงเป็นหนังสือถึงคอลัมน์หมายเลข 7 ยืนยันอ่างเก็บน้ำไม่รั่ว แต่โทษรางรับน้ำจากภูเขาบางส่วนชำรุด มีขยะ วัชพืชและอาคารบ้านเรือนกีดขวางรางรับน้ำ รวมทั้งมีปัจจัยสถิติน้ำระเหยสูง จึงไม่มีน้ำเหลืออยู่ในอ่าง ซึ่งขัดกับความจริงช่วงเดือนตุลาคมปีที่แล้ว บนเกาะสีชังมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ปริมาณน้ำระเหยน้อยกว่าฝนที่ตกลงมา เหตุใดอ่างเก็บน้ำไว้ได้ไม่นาน น้ำก็หายไปหมด ขณะที่ “บ่อล้อหอย”และอีกหลายบ่อหลายสระในพระราชวังพระจุฑาธุชราชฐาน ที่อยู่ใกล้เคียง เก็บน้ำฝนไว้ได้เต็มไว้สอยช่วงหน้าแล้ง คุณพิศิษฐ์ฯ ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการออกแบบปรับปรุงอ่างเป็นลักษณะรูปกระทะ ปูด้วยวัสดุดินสังเคราะห์ ถมด้วยชั้นดินปูทับด้วยซีเมนต์บล็อก ไม่มีแอ่งลึกสุดท้าย ต่างจากเดิมก่อนปรับปรุงปูด้วยแผ่นยางและมีแอ่งลึกสุดท้ายที่น้ำยังพอเหลือบางหน้าแล้งให้จับปลา ชาวบ้านยืนยันไม่ถึงกับแห้งหมด ด้านปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยอมรับพื้นอ่างเก็บน้ำบางส่วนอาจมีรอยแยกรั่วซึม ต้องออกแบบแก้ไขใหม่ให้สมบูรณ์ หลังผ่านพ้นสถานการณ์โควิด-19 ปัญหานี้จะต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว สงสารแต่ชาวเกาะสีชังที่ต้องซื้อน้ำจืดใช้อุปโภคบริโภคในราคาสูงมาเป็นเวลายาวนาน มีอ่างกระทะยักษ์แต่ไร้น้ำก็ไร้คุณค่า …คงต้องร้องเพลง “สีชัง”ในบทต้นไปก่อน “….สีชัง ชังชื่อแล้วอย่าชัง….”
** ต้องขอแสดงความยินดีกับคุณประภัสสร กุหลาบ ที่ได้มาดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายโยธาฯ ของเขตบางคอแหลม ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต แถมซ้ำยังเป็นผู้มีมนุษย์สัมพันธ์อันยอดเยี่ยมด้วย สมกับเป็นข้าราชการของประชาชน
ตามนโยบาย สกัดกั้นขบวนการลักลอบขนแรงงานเถื่อนและยาเสพติด ของ พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.ภ.6 และ พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ รับผิดชอบงานความมั่นคงร่วมกับพ.ต.ต.อันตรัตน์ สุขนรินทร์ สว.กก.สืบสวน ภ.จว.นครสวรรค์จับกุม น.ส.จตุพร ดำทน อายุ 38 ปี พร้อมยาบ้า จำนวน 10,000 เม็ด ขณะขับรถเก๋ง โตโยต้า อัลตีส สีขาว ทะเบียน กต 1490 กาญจนบุรี โดยส่งยาบ้าไปกับรถทัวร์ เพื่อกระจายยาแบบกองทัพมด จับกุมได้บริเวณบขส.จว.นครสวรรค์ อยู่ระหว่างขยายผล และร่วมกับ พ.ต.อ.ธีระยุทธ สุทธิพนไพศาล ผกก.สภ.หนองปลิง,พ.ต.ท.ธเนศร์ เนียมณรงค์ รอง ผกก.ป.,ร.ต.อ.สามารถ ทองเชื้อ รอง สวป. ได้มีการตั้งด่านบริเวณหน้าสนามกีฬานครสวรรค์ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จับกุมต่างด้าวจำนวน 2 รายและได้จัมกุมผู้ต้องหานำพาคนต่างด้าวเข้าในราชอาณาจักรไทย 1 ราย ต้องขอชมเชย พ.ต.อ.ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงศ์ เป็นตำรวจที่ยอดขยันและมีสินน้ำใจกับลูกน้องชุดจัมกุมด้วย เล็กๆน้อยๆ ถือว่าเป็นน้ำดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติคนหนึ่ง…ลิป ออนนิวส์
** มีผู้คนเป็นจำนวนมากเห็นด้วยที่ทางราชการจะดำเนินคดีกับดีเจมะตูม ที่ปกปิดข้อมูลในการติดเชื้อโควิด-19 แล้วยังไปจัดปาร์ตี้วันเกิดซึ่งเป็นการทำให้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก ทางราชการตั้งข้อหาหลายข้อหาซึ่งมีทั้งโทษจำและปรับ จะได้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่จะปกปิดข้อมูล ถ้าติดเชื้อโควิด-19 หลายหน่วยงานตอนนี้ออกมาดำเนินคดีกับพวกขายตรงที่เข้าข่ายหลอกลวงชาวบ้าน พอผู้ถูกกล่าวหารับทราบข่าวแล้วมักจะบอกว่า รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ต้องถามผู้ค้าออนไลน์ว่า ไม่รู้ตัวเองหรือว่าแก่จนหัวงอก รู้ว่าจะอะไรไม่ควรจะทำมันเป็นเรื่องของการผิดกฎหมาย!!!
** ข่าวในการจับกุมหนุ่มควงปืนบุกเดี่ยวชิง 6 แสน แบงค์กรุงไทย ในห้างดังย่านบางกะปิ โดยเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2564 พล.ต.ท. ภัคพงศ์ พงศ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต. จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่งการไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดำเนินการสืบสวนจนสามารถจับตัวนายสุวิทย์ สิทธิแสน ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ธนาคารกรุงไทย ห้างเดอะมอลล์ บางกะปิ ต้องยอมรับว่า นายตำรวจ 2 ท่านนี้ ทั้ง พล.ต.ท. ภัคพงศ์ พงศ์เภตรา ผบช.น. 1 และ พล.ต.ต. จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช. น. ซึ่งเป็นนายตำรวจที่ขยันขันแข็งในการจับกุมผู้ที่ก่อคดีอาชญากรรม ต้องขอปรบมือดังๆ ให้กับ 2 นายตำรวจน้ำดีด้วย
** มีชาวบ้านร้องเรียนมาตลอดว่า พื้นที่ของ สน. สำเหร่ นอกเหนือจากยาเสพติดจะระบาดอย่างหนักแล้ว ยังมีบรรดาโจรผู้ร้ายที่คอยสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมาตลอด ฝาก พ.ต.อ. ฉัฐกิตติ์ ผดุงจันทน์ธนัย ผกก. สน. สำเหร่ สั่งการไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาให้ขยัน และเข้มแข็งในการออกตรวจจับทั้งแก๊งค้ายาเสพติดและบรรดาโจรผู้ร้ายเพื่อขจัดทุกข์ให้ชาวบ้านด้วย
** มีผู้ร้องเรียนมาว่า พื้นที่ สน.ชนะสงคราม นอกจากยาเสพติดจะระบาดแล้ว ก็ยังมีปัญหาเรื่องการจราจรที่ติดขัดจนแทบรถจะขยับไม่ได้ เรื่องนี้คงต้องฝากให้ พ.ต.อ.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร ผกก.สน. ชนะสงคราม สั่งการไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาให้จับกุมทั้งแก๊งค้ายาเสพติดและจัดระเบียบการจราจรเพื่อให้ความคล่องตัวขึ้น
พ.ต.อ.ดุสิต. วาลีประโคน ผกก.สน.บางยี่เรือ ได้ลงไปตรวจตราจับกุมผู้ค้ายาเสพติดอย่างเข้มงวดไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืนและได้สั่งการให้ลูกน้องเฝ้าจับตาดูมิให้มีการเล่นการพนันอย่างเด็ดขาดตลอด ตลอด 24 ชั่วโมง ถือว่าพ.ต.อ.ดุสิต. วาลีประโคน
ผกก.สน.บางยี่เรือ เป็นหนุ่มไฟแรงยอดขยันของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกคนหนึ่ง…ลิป ออนนิวส์
** มีผู้ใช้รถใช้ถนนฝากชมกันมาเป็นจำนวนมากมายว่า ด.ต. จิรศักดิ์ อาสว่าง ผบ.หมู่ (จร.) สน. ยานนาวา เป็นตำรวจจราจรยอดขยันอีกนายหนึ่งของ บชน. ที่ขี่รถตรวจการจราจร หากมีจุดไหนที่ติดขัดก็จะลงไปโบกรถเพื่อทำให้การจราจรเกิดความคล่องตัวขึ้น “ไมโครโฟน” ก็ขออวยพรให้เจริญในหน้าที่การงานและได้เลื่อนยศด้วย
** “ผู้ใดแพร่เชื้อโควิด-19 ด้วยความประมาท ถือว่าผู้นั้นทำลายสังคม”
**โลหิตยังขาดแคลนอย่างหนัก โปรดร่วมใจกันไปบริจาคโลหิตที่สภากาชาดไทย ได้กุศลแรง
ไมโครโฟน