วันนี้ (8 ก.ค.65) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงการเตรียมการรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงวันหยุดยาวเดือนกรกฎาคม ซึ่งมีวันหยุดติดต่อกันระหว่างวันที่ 13 – 17 ก.ค. และวันที่ 28 – 31 ก.ค. โดยเตรียมบริการขนส่งสาธารณะทั้งทางถนน ราง น้ำ และอากาศ ให้เพียงพอไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง และจัดบริการรถสาธารณะเชื่อมต่อกับท่าอากาศยานและสถานีรถไฟฟ้า เพื่อให้ประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวกและปลอดภัยมากที่สุด
นอกจากนี้ ยังได้เตรียมจัดการจราจรบนเส้นทางถนนสายหลักและสายรองที่มีการจราจรหนาแน่นติดขัด โดยได้คาดการณ์ปริมาณจราจรขาเข้าและขาออกกรุงเทพฯ บนทางหลวงสายหลัก 5 Corridor ได้แก่ สายเหนือ สายอีสาน สายตะวันออก สายตะวันตก และสายใต้ โดยในช่วงวันอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษา มีปริมาณจราจรขาเข้ารวม 2.39 ล้านคัน และขาออกรวม 2.41 ล้านคัน และช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ มีปริมาณจราจรขาเข้ารวม 2.15 ล้านคัน และขาออกรวม 2.15 ล้านคัน ซึ่งในช่วงวันหยุดยาวดังกล่าวมีปริมาณการจราจรใกล้เคียงกับความสามารถในการรองรับ (Capacity) ของสายทาง ซึ่งคมนาคมได้เตรียมการบริหารจัดการจราจรเพื่อรองรับไว้ด้วยแล้ว อาทิ โดยจัดเจ้าหน้าที่จัดการจราจรรวมทั้งให้ดำเนินการคืนพื้นผิวจราจรบริเวณโครงการก่อสร้าง ตั้งจุดกวดขันวินัยจราจร และประชาสัมพันธ์ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงจากถนนสายหลักเพื่อลดปริมาณการจราจร
รวมทั้งในช่วงวันหยุดดังกล่าว ยังได้ยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมทางพิเศษ 3 เส้นทาง ได้แก่
ทางพิเศษศรีรัช อุดรรัถยา และเฉลิมมหานคร ในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ระหว่างวันที่ 13 – 14 กรกฎาคม 2565 และช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ ในวันที่ 28 ก.ค. 2565 และบริการที่จอดรถฟรี ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณลานจอดรถยนต์ระยะยาว โซน C
ส่วนเรื่องการดูแลความปลอดภัยในการเดินทาง ได้ตรวจสอบปรับปรุงแก้ไขจุดเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ (Black Spot) เช่น บริเวณจุดกลับรถ ทางแยก ทางโค้ง/ทางลาดชัน และจุดตัดถนนกับรถไฟ/ทางลักผ่าน รวมทั้งขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งสินค้า เลี่ยงการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกในช่วงดังกล่าว เพื่อให้เกิดการเดินทางอย่างปลอดภัยในช่วงฤดูฝนที่อาจเกิดความเสี่ยงจากถนนลื่นและทัศนวิสัยในการขับขี่เข้มงวดการบังคับใช้กฎหมาย กำกับดูแลด้านวินัยจราจร และรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างความตระหนักรู้ และลดพฤติกรรมเสี่ยงในการขับขี่ อาทิ การขับรถเร็วเกินกฎหมายที่กำหนด ดื่มแล้วขับ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย/ไม่สวมหมวกนิรภัย โดยการตรวจจับความเร็ว การติดตามด้วยระบบ GPS การตั้งจุดตรวจ (Checking Point)
การกำกับดูแลความพร้อม ตรวจสอบพนักงานขับขี่และพนักงานประจำรถโดยสารสาธารณะ เรือโดยสาร และรถไฟให้ปฏิบัติตามกฎหมายกฎระเบียบ เช่น ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ใช้สารเสพติด พักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงตรวจความพร้อมความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะ เรือโดยสาร รถไฟและเครื่องบิน รวมถึงภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร สถานีรถไฟ ท่าเรือ และท่าอากาศยาน ตลอดจนตั้งศูนย์ปฏิบัติการของหน่วยงานในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเพื่อกำกับดูแล/สั่งการให้เกิดความปลอดภัยและรับเรื่องร้องเรียน
สำหรับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 กำชับให้ปฏิบัติตามข้อกำหนด พ.ร.ก ฉุกเฉิน และคำสั่ง ศบค. อย่างเคร่งครัด โดยตรวจสอบกำกับดูแลการให้บริการขนส่งสาธารณะตามแนวทางที่กำหนด อาทิ จัดจุดตรวจคัดกรอง จัดให้มีการเว้นระยะห่าง การปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการรองรับปริมาณการเดินทาง ดังนี้
1. เส้นทางสู่ภาคเหนือ เน้นการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการใช้ ทล.340 (กรุงเทพฯ –สุพรรณบุรี – ชัยนาท – นครสวรรค์) เป็นเส้นทางเลี่ยงสู่ภาคเหนือเพื่อแบ่งเบาภาระ ทล. 32
2. เส้นทางสู่ภาคใต้ จัดเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจรบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง โครงการทางยกระดับทล. 35 ช่วงบางขุนเทียน – เอกชัย บริเวณหน้าวัดพันท้ายนรสิงห์ และโครงการทางยกระดับบน ทล.35 ช่วงเอกชัย – บ้านแพ้ว บริเวณพื้นที่ก่อสร้างสะพานกลับรถบ้านแพ้ว รวมถึงเน้นการประชาสัมพันธ์การปิดสะพานกลับรถหน้า รพ.วิภาราม (กม. 34)
3. เส้นทางสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เน้นการประชาสัมพันธ์ และรณรงค์ให้ประชาชนใช้ทางเลี่ยงเส้นทาง ทล.304 เพื่อกระจายปริมาณจราจรจากเส้นทางหลัก (ทล. 2) ไปยังพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และจัดเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจรขณะดำเนินการและติดตั้งป้ายเตือนการก่อสร้างและเส้นทางเลี่ยง บนทางหลวงหมายเลข 2 ระหว่าง กม.75+500 – กม.77+500
4. เส้นทางสู่ภาคตะวันออก รณรงค์ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 36 หมายเลข 344 และหมายเลข 34 เพื่อเป็นการเลี่ยงรถติดบนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 เพื่อไปยังภาคตะวันออก
รวมทั้งให้ กรมทางหลวงเปิดให้บริการทางหลวงระหว่างเมืองหมายเลข 6 (M6) ช่วงสีคิ้ว – ขามทะเลสอ ระยะทาง 64 กม. โดยให้บริการฟรี ในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ขาออก วันที่ 13 – 14 ก.ค. 2565 และขาเข้าวันที่ 15 – 17 ก.ค. 2565 และช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ ขาออก วันที่ 28 – 29 ก.ค. 2565 และขาเข้าวันที่ 30 – 31 ก.ค. 2565