กองปราบเตรียมไปนครวรรค์สอบปากคำพยานบุคคลเพิ่มเติมคดี ผกก.โจ้ ส่วนปมรถหรูรอประสานกรมศุลกากรขอรายละเอียด ขยายผลหาต้นตอที่ไปที่มา สายลับแจ้งเบาะแสมีหนาว คาดเอี่ยวร่วมขบวนการจับรถหรูผิด ก.ม.
เมื่อวันที่ 8 ก.ย.2564 พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หรือผกก.โจ้ และลูกน้องรวม 7 คน ใช้ถุงพลาสติกครอบศีรษะนายจิระพงศ์ หรือมาวิน ธนะพัฒน์ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิตนั้นว่า สำนวนคดีมีความคืบหน้าไปมาก อยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อพิจารณาว่ายังมีประเด็นใดที่ต้องเก็บรายละเอียดเพิ่มหรือไม่ เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน สังคมให้ความสนใจ ดังนั้นการดำเนินการทุกขั้นตอนจำเป็นต้องทำอย่างรอบคอบ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นชัดได้ว่ากลุ่มผู้ต้องหามีการกระทำผิดจริงตามข้อกล่าวหา
“โดยภายในสัปดาห์หน้า ตนพร้อมคณะพนักงานสอบสวนจะลงพื้นที่ จ.นครสวรรค์ อีกครั้ง เพื่อสอบปากคำพยานบุคคลเพิ่มเติม และเมื่อสำนวนการไต่สวนผลชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตของ สภ.เมืองนครสวรรค์ รวมถึงผลการตรวจพิสูจน์ความน่าเชื่อถือของคลิปวิดีโอที่เป็นหลักฐานสำคัญในการยืนยันตัวตนและพฤติกรรมผู้กระทำผิด และ หลักฐานอื่นๆ บางอย่างที่อยู่ระหว่างการส่งตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ส่งมาถึงคณะทำงานจะนำสำนวนเอกสารทั้งหมดมารวบรวมประกอบสำนวนให้มีความแน่นหนามากยิ่งขึ้น” รองผู้การกองปราบ กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ในส่วนของการตรวจสอบปมทุจริตการลักลอบนำเข้ารถหรูจากมาเลเซียและปั้นคดีว่าจับรถ ก่อนส่งต่อกรมศุลกากรนำไปขายทอดตลาด จนได้เงินรางวัลนำจับ ของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ นั้น เบื้องต้นขณะนี้ชุดคลี่คลายคดีของทางกองปราบปรามฯ อยู่ระหว่างประสานขอข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการนำเข้ามาของรถหรูเหล่านี้ จากทางกรมศุลกากร เพื่อจะนำไปตรวจสอบหาที่ไปที่มาอย่างละเอียด
นอกจากนี้จากแนวทางสืบสวนยังทราบว่า การเข้าจับกุมรถหรูผิดกฎหมายส่วนใหญ่จะมีสายลับเป็นผู้แจ้งเบาะแส โดยผู้ทำหน้าที่สายลับจะได้รับเงินรางวัลนำจับประมาณ 2-3 แสนบาทต่อคันจากกรมศุลกากร ส่วนเจ้าหน้าที่ที่จับกุมจะได้เงินรางวัลนำจับแยกต่างหากอยู่ที่ประมาณร้อยละ 45 ของราคาประมูลรถ ซึ่งในกรณีของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อาจต้องมีการขยายผลไปถึงสายลับเหล่านี้เพราะถือว่าเป็นขบวนการเดียวกัน.