ที่นี่เป็นเมืองโบราณที่มีการสันนิษฐานว่าอยู่ในสมัยทวารวดี โดยเป็นเมืองโบราณที่มีคูเมืองเป็นเนินดินโดยรอบ รูปสี่เหลี่ยม มุมมนจนเกือบเป็นวงกลมและล้อมรอบคูเมืองซึ่งกว้างประมาณ 20 เมตรเอาไว้ โดยคูเมืองนั้น มีความยาวประมาณ 800 เมตร กว้าง 700 เมตร และเนื่องจากบริเวณนี้มีลักษณะเป็นเนินสูงกว่าพื้นที่รอบนอก ชาวบ้านจึงนิยมเรียกกันว่า “โคกจันเสน” ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการขุดค้นพบโบราณวัตถุมากมาย ทั้งประเภทดินเผา ได้แก่ พระพิมพ์ ตุ๊กตาดินเผา ตะเกียง ประเภทที่ทำด้วยหิน ได้แก่ ฐานบัว ธรรมจักร ขวานหินขัดที่ทำด้วยโลหะตุ้มหูทำด้วยตะกั่วหรือดีบุก ใบหอกสำริดปัจจุบันโบราณวัตถุเหล่านี้ “พิพิธภัณฑ์จันเสน” ตั้งอยู่ในพระมหาธาตุเจดีย์จันเสน ภายในบริเวณวัดจันเสนนั่นเอง พระมหาธาตุเจดีย์จันเสนนั้นเกิดจากดำริของพระครูนิสัยจริยคุณ หรือ “หลวงพ่อโอด” ที่ปรารถนาสร้างพระมหาธาตุเจดีย์ขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางชุมชน โดยในการออกแบบพัฒนาจากลักษณะสถูปสมัยทวารวดี มีการใช้รายละเอียดของลวดลายทางสถาปัตยกรรมในสมัยทวารวดี และยังมีคำจารึกที่ฐานพระมหาธาตุเจดีย์ศรีจันสน ให้ผู้สนใจได้อ่านประวัติความเป็นมาด้วย พระมหาธาตุเจดีย์องค์นี้โดยประกอบด้วยส่วนที่สำคัญต่าง ๆ ได้แก่ – ส่วนยอดของมณฑปเจดีย์จะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ – องค์เรือนธาตุประดิษฐาน “หลวงพ่อนาค” พระพุทธรูปปางนาคปรกที่นำมาจากเมืองลพบุรี เพื่อให้เป็นพระพุทธรูปสำคัญของชุมชน – อาคารส่วนฐานของพระมหาเจดีย์ เป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นของท่าน และเป็นพิพิธภัณฑ์เมืองจันเสนอยู่ในห้องชั้นฐาน จัดแสดงเรื่องราวของเมืองจันเสนในอดีต อย่างไรก็ตาม หลวงพ่อโอดได้มรณภาพไปเสียก่อนในปี พ.ศ. 2532 ในส่วนของงานพิพิธภัณฑ์จึงสร้างไม่เสร็จ ซึ่งภายหลังพระครูนิวิฐธรรมขันธ์หรือหลวงพ่อเจริญ เจ้าอาวาสรูปต่อมา ได้เป็นกำลังสำคัญในการสานต่องานพิพิธภัณฑ์จนเสร็จสมบูรณ์ด้วยงบประมาณของการก่อสร้างที่มาจากแรงศรัทธาของประชาชนนั่นเอง นอกจากนี้ภายในบริเวณวัด ยังมีการรวมกลุ่มของสตรีบ้านจันเสนทอผ้าด้วยกี่กระตุก และจัดตั้งเป็นศูนย์จำหน่ายงานหัตถกรรมให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย โดยส่วนใหญ่เป็นผ้าฝ้าย ผ้าทอมัดหมี่จันเสน และผ้ามัดย้อม สอบถามรายละเอียดได้ที่โทร. +66 5633 9115-6