วัดนี้เดิมทีเดียวมีชื่อเรียกมากมาย อาทิเช่น วัดเชียงกายบ้าง วัดเชียงกรายบ้างหรือวัดเชียงไกรบ้าง จากนั้น ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดปากน้ำ และวัดใหญ่ ครั้นมาถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ได้เสด็จฯ ทางชลมารค ทอดพระเนตรเห็นน้ำท่วมเต็มไปหมด พระองค์จึงพระราชทานนามให้ใหม่อีกครั้งว่าวัดคงคาราม จนกระทั่งในยุคหลัง ได้มีการเปลี่ยนชื่อวัดเป็นชื่อตามตำบล ซึ่งก็คือ วัดเกรียงไกร มาจนถึงปัจจุบัน และเนื่องจากตำบลเกรียงไกรนั้น มีวัดเพิ่มขึ้นอีก 2 วัด ดังนั้นวัดเกรียงไกรจึงต้องมีคำว่า ใต้-กลาง-เหนือ ต่อท้าย เช่นทุกวันนี้ น่าชม – หลวงพ่อพุทธนิมิตสัมฤทธิ์ ปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัยพระประธานที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ สำหรับพระพุทธรูปองค์นี้ มีตำนานเล่าว่า ในช่วงที่กรุงสุโขทัยเสื่อมอำนาจลงเรื่อย ๆ เกิดภัยสงครามอยู่เป็นประจำ ชาวสุโขทัยจึงได้นำพระพุทธรูปล่องแพมาตามลำน้ำ และเมื่อมาถึงปากน้ำเชียงไกร แพได้จมลง ชาวบ้านจึงช่วยกันนำพระพุทธรูปขึ้นมาแล้วโบกปูนทับ ซ่อนไว้ในผนังพระอุโบสถเพื่อให้รอดพ้นจากภัยสงคราม พอมาถึงในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น พ.ศ. 2147 ชาวบ้านได้สร้างวัดนี้ขึ้นตรงที่ประดิษฐานพระพุทธรูป จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2511 ได้มีการซ่อมผนังพระอุโบสถจึงพบแต่พระพุทธรูปปูนธรรมดา ครั้นนานวันเข้าปูนกะเทาะออก จึงทราบว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำ – วิหารโบราณ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ระหว่างปี พ.ศ. 2400-2430 และยังคงความเก่าคลาสสิก ไม่มีการบูรณะใด ๆ ภายในมีรอยพระพุทธบาทจำลอง รวมทั้งจิตรกรรมฝาผนังซึ่งเป็นภาพพุทธชาติชาดก โดยปกติแล้ววิหารเก่าหลังนี้จะเปิดให้เข้าชมในช่วงเทศกาลเท่านั้น สำหรับช่วงนอกเทศกาล สามารถแจ้งทางวัดให้เปิดได้ ทิปส์ท่องเที่ยว บริเวณหน้าวัดมีฝูงลิงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และเป็นลิงที่มีลักษณะพิเศษคือ ค่อนข้างเชื่อง ไม่ดุร้าย และไม่ทำร้ายคน โดยทางวัดได้จัดเตรียมอาหารลิงไว้ให้นักท่องเที่ยวสามารถนำไปเลี้ยงลิงได้ทุกวัน นอกจากนี้ในวัดยังมีฟาร์มจระเข้ให้ชมอีกด้วย เปิดทำการทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร +66 5651 4982