ดีเอสไอ แถลงผลปฏิบัติการบุกทลายโกดัง 2แห่ง ในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ พร้อมยึดสินค้าแบรนด์เนม เกรด A กว่า 2หมื่นชิ้น รวมมูลค่านับ 100 ล้านบาท พร้อมแถลงผลคืบหน้าการจับกุม “เนเน่ โมเดลลิ่ง”ขายสื่อลามกอนาจารเด็กผ่านดาร์คเว็บ และการจับกุมครั้งนี้นับเป็นคดีใหญ่ระดับโลก
ดีเอสไอ จับโมเดลลิ่ง อนาจารเด็ก พบภาพถ่ายลับกว่า 5 แสนภาพ
โมเดลลิ่ง รับแอบถ่ายภาพ กอด-ลูบเด็กสาวจริง
วันนี้ 16 ก.พ. 2564 พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ แถลงผลการบุกค้นโกดังเก็บสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า 2 จุด ประกอบด้วย โกดังในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ พร้อมกับยึดสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ที่จำหน่ายผ่านเฟซบุ๊ก ทั้งกระเป๋า แว่นตา นาฬิกา และผ้าพันคอยี่ห้อดัง กว่า 20,000 ชิ้น รวมมูลค่าตามท้องตลาดกว่า 100 ล้านบาท โดยการจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ได้สืบสวนขยายผลจากการจับกุมผู้ลักลอบนำสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เข้ามาในประเทศผ่านตามแนวชายแดน จากนั้นได้นำสินค้ามาเก็บไว้ที่โกดัง ก่อนจำหน่ายต่อให้กับผู้ค้าย่านสำเพ็ง และรายย่อยรายอื่นๆ
ด้าน ร.ต.อ.พลสัณห์ เทิดสงวน ผู้อำนวยการส่วนคดีทรัพย์สินทางปัญญา1 ระบุว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายร้องเรียนว่าถูกละเมิดเครื่องหมายการค้า แล้วนำไปโพสต์ขายสินค้าต่างๆด้วยวิธีเฟซบุ๊กไลฟ์ ก่อนสืบสวนขยายผลพบโกดังที่จังหวัดนครสวรรค์ จึงได้เข้าดำเนินการตรวจยึดดังกล่าว
เบื้องต้นมีผู้แสดงตัวเป็นเจ้าของทรัพย์ดังกล่าวแล้ว 1 ราย โดยหลังจากนี้จะให้ผู้เสียหายเข้าตรวจสอบสินค้าทั้งหมด ก่อนแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่แสดงตัวเป็นเจ้าของสินค้าเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนความคืบหน้ากรณีการจับกุม “เนเน่ โมเดลลิ่ง” หรือนายดนุเดช แสงแก้ว ได้ที่บ้านพักย่านปทุมธานี พร้อมกับไฟล์ภาพลามกอนาจารจำนวนกว่า 5แสนภาพ จากการสืบสวนขยายผลล่าสุด
ทางอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร พร้อมด้วยตัวแทนจาก ตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย หรือ AFP , FBI , HSI , O.U.R. , ตำรวจสากล หรือ Interpol , ตำรวจนิวซีแลนด์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมคดีนี้เพิ่มเติม โดยมีการพบสื่อลามกอนาจารเด็กไทยจำนวนมาก จึงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนมาตั้งแต่ช่วงปี 2560
กระทั่งวันที่ 11 ก.พ.64 เจ้าหน้าที่ขยายผลจนสามารถจับกุม นายดนุเดช ซึ่งเป็นตัวการใหญ่ ได้ที่บ้านใน ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งเปิดเป็นบริษัทเนเน่ โมเดลลิ่ง แต่ใช้เป็นสถานที่ล่วงละเมิดเด็ก พร้อมยึดของกลาง ฮาร์ดดิสที่มีภาพอนาจารกว่า 500,000 ภาพ , อุปกรณ์บันทึกข้อมูล SSD, โทรศัพท์มือถือ, ถุงยางอนามัย และอุปกรณ์กระตุ้นอารมณ์ทางเพศหลายรายการ ก่อนนำไปซื้อขายในเว็บไซต์ผิดกฎหมายที่เรียกว่าดาร์คเว็บ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
ขณะที่นายสุปรีย์ เสาวิจิตร ผู้อำนวยการ องค์การโอเปอร์เรชั่น อันเดอร์กราวด์ เรลโรด ไทยแลนด์ (O.U.R. – Operation Underground Railroad –Thailand) กล่าวว่า สำหรับพฤติการณ์ของนายเนเน่ จะหาเหยื่อโดยใช้วิธีการสำรวจตามโรงเรียนหรือโซเชียลมีเดีย ก่อนพยายามเข้าไปตีสนิทกับเด็ก จากนั้นก็จะพาเด็กไปทานอาหาร หรือให้เล่นเกมคอมพิวเตอร์ เมื่อสบโอกาสจึงก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศ พร้อมกับบันทึกวิดีโอเอาไว้ด้วย ซึ่งองค์กร O.U.R. พบข้อมูลว่าการจับกุมครั้งนี้ ถือเป็นการจับกุมครั้งที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่มีการก่อตั้งองค์กรเมื่อปี 2013 และถือเป็นการจับกุมที่เป็นตัวอย่างคดีใหญ่ระดับโลก