เปิดใจ “ยายรัตน์” กล้วยด่างโนโน๊ะ แลกโฉนดที่ดิน 5 ไร่ มูลค่า 3 ล้าน

ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.64  จากการกรณีที่มีข่าวสาวใจป้ำใช้โฉนดที่ดินกว่า5ไร่แลกกล้วยด่าง ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปหานางฐิติ รัตน์ มะลิ  อายุ 62 ปี เจ้าของเพจบ้านสวนคุณยายรัตน์ ซึ่งคุณยายรัตน์ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ครั้งแรกยายก็ปลูกแคคตัสก่อนก่อนจากนั้นก็ได้กล้วยด่างพันธ์โนโน๊ะซึ่งลูกเขยไปทำงานที่ปาปัวนิวกีนี เห็นว่าสวยดีเขาเลยส่งมาให้จากนั้นยายก็เลี้ยงไว้และเพาะหน่อขึ้นเรื่อยๆ และยังไม่มีการส่งออกนอกประเทศเพียงแต่ขายอยู่ในประเทศ ซึ่งที่คุณยายไปเปิดบูทขายกล้วยด่างที่แฟชั่นไอส์แลนด์นั้น ยายคิดว่าประสบความสำเร็จมากและขอขอบคุณผู้จัดรายการทุกท่านและคณะกรรมการทุกท่านที่มาช่วยดูแลเราตลอดงาน ซึ่งวันงานก็มีการขายไป 1 ต้นราคา 1 ล้านซึ่งก็มีกล้วยด่างพันโนโน๊ะไปโชว์ที่งาน ส่วนที่มีลูกค้าเอาโฉนดที่ดินมาและกล้วยด่างนั้น ซึ่งจริงๆแล้วตีที่ดินไว้ในราคา 3 ล้านบาท อยู่จังหวัดนครสวรรค์ 

ซึ่งก่อนที่จะมีการแลกกันนั้นยายดูที่ดินมาแล้วและที่ก็ถมแล้วประมาณ 5 ไร่กว่าๆ ส่วนกล้วยด่างที่แลกไปนั้นยายโพสไว้ราคา 1 ล้านบาทซึ่งในการแลกครั้งนี้เป็นการซื้อใจแลกใจและเขาก็มาหาแล้วพันธ์โนโน๊ะซึ่งยายตั้งชื่อไว้ว่าพลอยชมพูซึ่งคนญี่ปุ่นไปพบครั้งแรก ซึ่งที่ดราม่ากันว่าเอาโฉนดที่ดินไปแลกกับกล้วยด่างนั้น เรามีการแลกกันจริงซึ่งได้โอนเป็นชื่อของลูกสาวยายแล้วที่สำนักงานที่ดินจังหวัดนครสวรรค์โอนเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งคุณปุ้ยที่นำโฉนดที่ดินมาแลกนี้เขาชอบกล้วยด่างอยู่แล้วและตามหากล้วยด่างพันธ์โนโน๊ะมานานแล้วเช่นกันส่วนกล้วยด่างที่ตนเองเลี้ยงไว้ก็มีหลายพันธ์ซึ่งพันธ์โนโน๊ะตนเองก็ตั้งราคาไว้ 10ล้านพร้อมหน่อลักษณะเด่นใบกล้วยจะเป็นด่างสีชมพู ส่วนหน่อกล้วยด่างพันธ์โนโน๊ะอยู่ที่ราคาเริ่มต้น 350,000 บาท

ส่วนนางสาวพรรณา คำแสน  อายุ 32 ปี  บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ซึ่งเมื่อต้นปีตนเองไปช่วยพี่เป็นนายหน้าขายที่ดินและก็เจอที่1 แปลงที่จังหวัดนครสวรรค์ซึ่งตนก็ซื้อไว้เพื่อกินกำไรและเมื่อกลางเดือนตุลาคมตนเองไปเจอเฟสบุ๊คของคุณยายรัตน์ไปโพสกล้วยด่างพันธ์โนโน๊ะ ชื่อพลอยชมพูซึ่งตนเองก็สนใจจึงได้นำที่ดินไปแลกมาซึ่งตนเองก็ยังเล่นกล้วยด่างได้ไม่นานส่วนที่ดินแปลงนี้ตั้งราคาขายไว้เกือบๆ 2 ล้าน ส่วนกล้วยไม้ด่างมีมูลค่า 3 ล้านบาท ซึ่งตนเองไปหาคุณยายที่บูทแฟชั่นไอส์แลนด์ซึ่งต้นนี้กี่ปีตนเองก็ไม่ทราบ

ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่