เปิดประวัติ"บ้านกาเเฟ" สถานที่ในคลิป"ผกก.โจ้" รีดเงินผู้ต้องหา2ล้าน

เปิดประวัติ”บ้านกาเเฟ” สถานที่ในคลิป”ผกก.โจ้” รีดเงินผู้ต้องหา2ล้าน

ความคืบหน้ากรณีคลิปผู้กำกับโจ้ รีดเงิน2ล้านจากผู้ต้องหา ล่าสุดโดนให้ออกจากราชการเเล้ว พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(สส) ได้เดินทางไปยัง ศปก.ภ.จว.นครสวรรค์ ทันที เพื่อประชุมและติดตามกรณีคลิปฉาว ของ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ เรียกเงิน 2 ล้าน สุดท้ายผู้ต้องหาขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตในที่สุด โดยยืนยันว่าคลิปดังกล่าวไม่มีการตัดต่อ ทุกอย่างเป็นไปตามที่เห็น ได้สั่งการให้ดำเนินคดีตามข้อเท็จจริง ยืนยันไม่มีการช่วยเหลือผู้ที่กระทำผิด แม้จะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจใต้บังคับบัญชา

ซึ่งก็มีอีกเเง่มุมหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับสถานที่ ที่คาดว่าได้ปรากฎในคลิปที่ ทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ นำมาเผยเเพร่ผ่านโลกออนไลน์ เปิดเผยผ่านทางทางเพจบิ๊กเกรียน…. อื้ออึง ขึ้นมาทันที เมื่อปรากฏคลิป ภาพ ผู้กำกับโจ้ แก๊งเทพบุตรถุงดำ

-สถานที่ตามภาพ คือที่เกิดเหตุ ใช้รีด น้องมาวิน นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ เรียกเงิน 2 ล้านบาทจนเสียชีวิต

-ขนานนามเรียกติดปาก ในหมู่ข้าราชการตำรวจ นครสวรรค์ ว่า บ้านกาแฟ

-เป็นเรือนไม้สภาพเก่า 2 ชั้นเป็นห้องสืบสวนสมัยก่อน ตั้งอยู่ด้านข้าง สถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์

-ก่อนปรับเปลี่ยน บ้านกาแฟ เป็นสถานที่ทำงาน ของตำรวจเฉพาะกิจปราบปรามยาเสพติด ชุด 05 ของ ผู้กำกับโจ้

โดยเมื่อช่วงค่าวันที่ 24ส.ค.64 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ได้ลงนามในคําสั่งสํานักงานตํารวจแห่งชาติที่ 407/2565 ให้ ผู้กำกับโจ้ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล ผู้กํากับการ สถานีตํารวจภูธรเมืองนครสวรรค์ ให้ออกจากราชการไว้ก่อน หลังถูกกล่าวหาว่ากระทําผิดวินัยอย่าง ร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวนกรณีถูกร้องเรียนว่าได้ทําร้ายร่างกายโดยการทรมาน นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ ผู้ต้องหาจนเสียชีวิต เพื่อเรียกเงิน จํานวน 2 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผบ.ตร. ได้เปิดใจหลังจากได้เห็นภาพคลิปดังกล่าวรวมถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่อาจเป็นการทำลายภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นต่อข้าราชการตำรวจว่า ” เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่น่าเสียใจเพราะมีผู้สูญเสีย และฝากเป็นอุทาหรณ์ให้กับข้าราชการตำรวจทุกนายซึ่งมีกว่า 2 แสนกว่านายให้ดูไว้เป็นตัวอย่าง ทำอะไรผลที่ตามมามันรุนแรงกว่าที่คิดไว้ และต้องยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่มีทางหนีพ้นได้ รวมทั้งยอมรับว่ากระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจทุกนาย คดีนี้ยืนยันว่านิ้วไหนที่เสียก็ต้องตัดทิ้งไม่ละเว้น เพื่อให้คนอื่นๆเดินต่อได้ แต่ก็เชื่อว่าตำรวจที่ดีก็ยังมีอยู่ คนเลวๆ ที่ทำไม่ดีก็ต้องรับผลกรรมที่ทำเอาไว้ เราไม่สามารถเอาคนแบบนี้ไว้ได้”