ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,419 ราย ประกอบด้วย
- ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,890 ราย
- จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 519 ราย
- ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 10 ราย
ส่วนผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิต 19 ราย เพศชาย 8 ราย เพศหญิง 11 ราย ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ ไขมันในเลือดสูง อ้วน ปอดเรื้อรัง ภูมิแพ้ ไตเรื้อรัง มะเร็ง อายุเฉลี่ย 42-93 ปี อยู่ที่กรุงเทพมหานคร 7 ราย, สมุทรปราการ ปทุมธานี จังหวัดละ 2 ราย และนครสวรรค์ สมุทรสาคร กาญจนบุรี ชลบุรี นครศรีธรรมราช สงขลา นครปฐม สุรินทร์ จังหวัดละ 1 ราย ปัจจัยเสี่ยงจากใกล้ชิดสมาชิกครอบครัวที่ติดเชื้อ, เพื่อนที่ติดเชื้อก่อน, สัมผัสผู้ติดเชื้อยืนยัน, ไปสถานที่คนแออัด-งานแต่ง/ห้าง
ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกล่าสุดวันนี้ มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมแล้ว 157,530,729 ราย เสียชีวิต 3,283,727 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 33,418,826 ราย อันดับสอง อินเดีย 21,886,611 ราย อันดับสาม บราซิล 15,087,360 ราย อันดับสี่ ฝรั่งเศส 5,747,214 ราย และอันดับห้า ตุรกี 4,998,089 ราย โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 99
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า วันนี้กรุงเทพฯจะมีการระดมการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตามคัสเตอร์ที่เป็นชุมนุมที่มีการติดเชื้อ โดยในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล จะมีการเร่งตรวจให้ได้มากที่สุดและเร็วที่สุด ซึ่งวันนี้จะไปตรวจที่สนามกีฬาธูปะเตมีย์, ชุมชนคลองเตย, สำเพ็ง แฟลตคลองเตย และบ่อนไก่ และมีการสุ่มตรวจในเขตอื่น ๆ ด้วย จึงขอความร่วมมือประชาชนให้มาตรวจกัน
ทั้งนี้ ชุมชนมีการอยู่กันอย่างหนาแน่น มีการใช้ห้องน้ำร่วมกัน ซึ่งหากพบผู้ป่วยโควิดแล้ว จะต้องแยกออกจากบ้านโดยเร็ว ไปที่พักหอคอยก่อน ซึ่งก็จะใช้วัด, โรงเรียน เป็นต้น ก่อนนำไปสู่ความช่วยเหลือต่อไปในโรงพยาบาล หรือโรงพยาบาลสนาม ตามอาการของผู้ป่วย
พญ. อภิสมัย กล่าวว่า ทางกรมการแพทย์ได้บอกว่า มีผู้ป่วยกว่า 60 รายปฏิเสธเตียงที่จัดหาให้ ซึ่งไม่อยากให้เกิดการปฏิเสธเตียง ทางสาธารณสุขได้มีการจัดเตียงเป็นสีเขียว สีแดง สีเหลือง ตามอาการของผู้ป่วย
พร้อมสรุปการประชุมคณะที่ปรึกษาด้านการสาธารณสุขในศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ดังนี้ ให้ทุกหน่วยงานในกรุงเทพมหานครทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน บูรณาการระบบสารสนเทศเดียวกัน เพื่อแบ่งปันข้อมูลโดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และเร่งรัดการดำเนินการคัดกรองเชิงรุก โดยขยายและใช้ศักยภาพของทุกหน่วยงานในกรุงเทพมหานครทั้งภาคสาธารณสุข และมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ที่ประชุมรับทราบสถานการณ์เตียงสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 โดยสำนักการแพทย์, กรมการแพทย์ ได้ขยายเตียงสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ให้เพียงพอกับผู้ป่วยวิกฤต โดยจะต้องเตรียมพร้อมเตียงให้ได้ 5% ของยอดผู้ติดเชื้อ
สำหรับการกระจายวัคซีนโควิด-19 ได้มีการจัดหามาถึงไทยมากขึ้น รวมแล้ว 2.5 ล้านโดส แบ่งเป็น 1 ล้านโดสมาในวันที่ 6 พ.ค., 5 แสนโดสมาในวันที่ 14 พ.ค. และอีก 1 ล้านโดสมาในวันที่ 22 พ.ค.นี้ ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะระดมฉีดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ครึ่งหนึ่ง ซึ่งทางกทม.ได้มีการเสนอฉีดวัคซีนให้กับผู้ขับขี่รถโดยสาร, ครู, พนักงานเก็บขยะ, พนักงานการท่าอากาศยาน, พนักงานออฟฟิค, พนักงานการไฟฟ้า และประปา ซึ่งก็สอดคล้องกับการจัดสรรให้บุคคลสาธารณะ ซึ่งเราได้เตรียมความพร้อมสถานที่ในการฉีดวัคซีน ตอนนี้มั่นใจความปลอดภัยสถานที่ฉีดวัคซีน ซึ่งมี 145 แห่ง เอกชน 14 แห่ง โดยจะมีการกระจายสถานที่ฉีดวัคซีนไปที่มหาวิทยาลัยด้วย
–อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์ โทร.02-2535000 ต่อ 313 อีเมล์: [email protected]–
