เช้านี้ที่หมอชิต – ความคืบหน้ากรณีคนร้ายร่วมกันก่อเหตุใช้ก๊าซเจาะตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ ในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ได้เงินสดกว่า 700,000 บาทหลบหนีไป ล่าสุดตำรวจภูธรกบินทร์บุรีตามจับกลุ่มคนร้ายได้แล้ว สารภาพหาเงินใช้หนี้นอกระบบ และไม่มีงานทำช่วงโควิด-19 ระบาด
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกลางดึกวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คนร้ายเป็นชาย ขับรถกระบะสีขาวมาจอดบริเวณตลาดไทยประคอง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ก่อนลงไปใช้ก๊าซพยายามเจาะตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ โดยกล้องวงจรปิดบันทึกภาพพฤติกรรมของคนร้ายไว้ได้ จะเห็นว่าทั้งหมดแบ่งหน้าที่กันทำงาน บางคนดูต้นทาง ที่เหลือพยายามใช้ก๊าซเจาะตู้เอทีเอ็ม ใช้เวลาก่อเหตุนานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนที่ทั้งหมดจะขับรถหลบหนีไปพร้อมเงินสด 758,900 บาท
ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.กบินทร์บุรี และตำรวจภูธรภาค 2 ลงพื้นที่หาเบาะแส ใช้เวลา 2 วันก็สามารถตามจับกลุ่มคนร้ายได้ 3 คน คือ นายสมนึก จันทรโฉม, นายธนจิตต์ โพธิลา และนายนพรัตน์ ทองชื่น หลังก่อเหตุทั้งหมดได้ขับรถหลบหนี โดยใช้ถนน 304 มุ่งหน้าเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา แล้วขับไปขึ้นมอเตอร์เวย์ มุ่งหน้าจังหวัดสมุทรปราการ
จากนั้นทั้งหมดก็แยกย้ายกันหลบหนี โดยนายสมนึก และนายนพรัตน์ ถูกตำรวจตามจับตัวได้ที่จังหวัดลำปาง ส่วนนายธนจิตต์ ถูกจับตัวได้ที่นครสวรรค์ จากการสอบปากคำผู้ต้องหา สารภาพว่าก่อเหตุครั้งนี้จริง โดยมีอาชีพรับเหมางานติดตั้งเครื่องทำความเย็นตามร้านสะดวกซื้อ ก่อนเกิดเหตุได้มารับเหมาติดตั้งระบบทำความเย็นที่ร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้กับตู้เอทีเอ็ม และเห็นพนักงานนำเงินมาเข้าตู้ จึงวางแผนก่อเหตุ เขาอ้างว่าช่วงนี้โรคโควิด-19 ระบาด ทำให้ไม่มีงานจ้าง ประกอบกับเป็นหนี้นอกระบบ และไม่มีเงินจ่ายค่าแรงลูกน้องจำนวนหลายแสนบาท เมื่อไปกู้เงินจากธนาคารก็ไม่ได้รับการอนุมัติ จึงตัดสินใจลงมือ
ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนถูกคุมตัวดำเนินคดีข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น และใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด เพื่อพาทรัพย์หลบหนี







