ยอดติดเชื้อโควิด 7 วันของไทยรวม 1.82 ราย ขยับลงเหลืออันดับ 10 ของโลก ต่ำกว่าสหรัฐฯ แล้ว วันนี้ติดเชื้อยังสูง 2.4 หมื่นราย 17 จังหวัดติดเชื้อเกิน 400 ราย ดับยังสูง 94 ราย แนวโน้มติดเชื้อมาจากต่างประเทศเริ่มสูง
เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด 19 ประจำวันว่า ประเทศไทยยังพบผู้ติดเชื้อใหม่เกินหมื่นรายเป็นวันที่ 61 ในการระบาดระลอกโอมิครอน โดยวันนี้พบติดเชื้อรายใหม่ 24,252 ราย สะสม 3,781,827 ราย หายป่วย 26,225 ราย สะสม 3,508,052 ราย เสียชีวิต 94 ราย สะสม 25,697 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 248,078 ราย อยู่ใน รพ. 64,335 ราย อยู่ รพ.สนาม HI CI 183,743 ราย มีอาการหนัก 1,845 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 782 ราย อัตราครองเตียงสีเหลืองสีแดงอยู่ที่ 27.8% สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อในรอบ 7 วันของประเทศไทยอยู่ที่ 182,177 ราย สูงเป็นอันดับ 10 ของโลก โดยอันดับ 1-9 ได้แก่ เกาหลีใต้ 1.91 ล้านราย เยอรมนี 1.25 ล้านราย ฝรั่งเศส 9.5 แสนราย อิตาลี 4.75 แสนราย เวียดนาม 4.61 แสนราย ออสเตรเลีย 3.99 แสนราย อังกฤษ 3.63 แสนราย ญี่ปุ่น 3.25 แสนราย และสหรัฐอเมริกา 1.86 แสนราย
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 94 ราย มาจาก 41 จังหวัด ได้แก่ กทม. 12 ราย , อุบลราชธานี 7 ราย , ตราด 5 ราย , สมุทรสาคร บุรีรัมย์ กำแพงเพชร สุโขทัย อุตรดิตถ์ พะเยา สุราษฎร์ธานี ฉะเชิงเทรา ลพบุรี สุพรรณบุรี จังหวัดละ 3 ราย , ปทุมธานี นครราชสีมา เชียงใหม่ พิจิตร ระนอง นครศรีธรรมราช พัทลุง อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ระยอง กาญจนบุรี ชลบุรี จังหวัดละ 2 ราย และ สมุทรปราการ นนทบุรี นครปฐม ศรีสะเกษ เลย หนองบัวลำภู หนองคาย สกลนคร บึงกาฬ นครพนม กระบี่ ตรัง ยะลา ปัตตานี นครสวรรค์ และสระแก้ว จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 45 ราย หญิง 49 ราย อายุ 31 – 97 ปี เฉลี่ย 76 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุและโรคประจำตัวรวม 96%
ส่วน 10 จังหวัดที่มีรายงานติดเชื้อรายใหม่สูงสุดคือ 1.กทม. 3,164 ราย 2.ชลบุรี 1,274 ราย 3.สมุทรปราการ 875 ราย 4.นนทบุรี 761 ราย 5.สมุทรสาคร 756 ราย 6.นครศรีธรรมราช 602 ราย 7.สงขลา 598 ราย 8.ฉะเชิงเทรา 598 ราย 9.ระยอง 592 ราย และ 10.ขอนแก่น 579 ราย สำหรับจังหวัดติดเชื้อถึง 400 รายขึ้นไปยังมีอีก 7 จังหวัด คือ สุพรรณบุรี 563 ราย , นครปฐม 542 ราย , บุรีรัมย์ 523 ราย , อุดรธานี 466 ราย , อุบลราชธานี 421 ราย , กาญจนบุรี 406 ราย และปทุมธานี 404 ราย
ขณะที่จังหวัดที่ติดเชื้อไม่ถึง 100 ราย มี 18 จังหวัด ได้แก่ พังงา 94 ราย , สมุทรสงคราม 94 ราย , อ่างทอง 91 ราย , หนองบัวลำภู 86 ราย , อำนาจเจริญ 82 ราย , สิงห์บุรี 73 ราย , มุกดาหาร 65 ราย , ชัยนาท 61 ราย , เชียงราย 60 ราย , แม่ฮ่องสอน 59 ราย , นราธิวาส 52 ราย , ปัตตานี 52 ราย , ยะลา 51 ราย , ตรัง 41 ราย , พิจิตร 41 ราย , ลพบุรี 34 ราย , พะเยา 30 ราย และลำพูน 3 ราย
สำหรับการติดเชื้อมาจากเรือนจำพบ 60 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 87 ราย ใน 35 ประเทศ โดยมาจากอังกฤษมากที่สุด 16 ราย ลาว มาเลเซีย ประเทศละ 6 ราย สวีเดน เยอรมนี ประเทศละ 5 ราย ออสเตรเลีย กัมพูชา เมียนมา อินโดนีเซีย ประเทศละ 4 ราย ที่เหลือติดเชื้อประเทศละ 1-3 ราย โดยเข้าระบบ Test&Go 70 ราย แซนด์บ็อกซ์ 8 ราย กักตัว 5 ราย และลักลอบเข้าประเทศ 4 ราย จากเมียนมา สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1-5 เม.ย. 2565 มีผู้เดินทาง 69,798 คน รายงานติดเชื้อ 249 คน คิดเป็น 0.36% แบ่งเป็นระบบ Test&Go 64,737 คน ติดเชื้อ 215 คน คิดเป็น 0.33% แซนด์บ็อกซ์ 4,290 คน ติดเชื้อ 28 คน คิดเป็น 0.65% และกักตัว 771 คน ติดเชื้อ 6 คน คิดเป็น 0.78%
ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด 19 วันที่ 5 เม.ย. ฉีดได้ 148,250 โดส สะสมแล้ว 130,347,834 โดส เป็นเข็มแรก 55,740,738 ราย คิดเป็น 80.1% ของประชากร เข็มสอง 50,421,739 ราย คิดเป็น 72.5% ของประชากร และเข็มสาม 24,185,357 ราย คิดเป็น 34.8% ของประชากร
