
เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 ที่ จ.นครสวรรค์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนที่ตกตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ทั้งวัน ทำให้ต้นสักทองขนาดใหญ่หักโค่นพังทับหลังคาบ้าน เลขที่ 44/52 บ้านเดี่ยวชั้นเดียว ซึ่งตั้งอยู่บริเวณบนเนินเขากบ เขตเทศบาลนครนครสวรรค์ ถูกท่อนไม้ใหญ่ที่หักออกมาจากต้นสักทองร่วงหล่นลงมาทับหลังคาบ้านจนได้รับความเสียหายหลังคาสังกะสี ในส่วนของห้องน้ำและห้องนอน จนทำให้ได้รับความเสียหายหนัก จึงต้องแจ้งขอความช่วยเหลือไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครนครสวรรค์ให้นำอุปกรณ์เครื่องมือมาช่วยตัดท่อนไม้แล้วนำออกจากตัวบ้าน โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถรื้อถอนท่อนไม้จนเสร็จสิ้น
จากการสอบถาม น.ส.สุมาลี บุญยวง อายุ 35 ปี เจ้าของบ้าน ได้รับการเปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก และมีลมพัดกระโชกแรงอยู่นานหลายชั่วโมง แต่พอฝนหยุดตก ตนจึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านเพื่อรีบไปจ่ายตลาด เนื่องจากเกรงว่าฝนจะตกลงมาอีก เพราะฟ้ายังคงมืดครึ้มอยู่ โดยก่อนออกไปตนได้ทิ้งลูกวัย 4 ขวบ และ 8 ขวบไว้ภายในห้องนอน 2 คน ซึ่งตนใช้เวลาไปซื้อของที่ตลาดเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง แต่พอกลับมาถึงบ้านก็ต้องตกใจเข่าแทบทรุดเมื่อพบว่ามีท่อนไม้สักขนาดใหญ่หักโค่นลงมาทับหลังคาบ้านทะลุเข้าไปถึงห้องนอนและห้องน้ำจนได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่เคราะห์ดีที่เหตุการณ์นี้ลูกของตนทั้ง 2 คนไม่ได้รับอันตรายถึงขั้นบาดเจ็บแต่อย่างใด มีเพียงแค่อาการตกใจเท่านั้น เพราะท่อนไม้หักร่วงลงมาทับหลังคาเสียงดังมาก
“ที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วถึง 3 ครั้ง เสียเงินค่าซ่อมรวมกันมานับหมื่นบาท แต่พอมาเกิดเหตุอีกครั้งในรอบนี้ถือว่าเสียหายหนักมาก จนยังไม่รู้ว่าจะหาเงินจากไหนมาซ่อมแซมบ้านอีก เพราะตนก็มีเพียงแค่อาชีพค้าขายลูกชิ้นทอดมีรายได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น”
น.ส.สุมาลีระบุด้วยว่า ต้นสักเจ้าปัญหาที่หักโค่นลงมาทับบ้านบ่อยครั้งต้นนี้ไม่สามารถตัดแต่งกิ่งของมันได้ เพราะเป็นต้นไม้ที่อยู่ในพื้นที่หลวง จึงส่งผลทำให้ที่ผ่านมาครอบครัวของตนต้องอยู่กันอย่างหวาดระแวงทุกครั้งที่มีลมแรงและฝนตกหนัก
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ที่บริเวณใต้ต้นไม้สักที่หักโค่นลงมาทับบ้านของ น.ส.สุมาลี พังเสียหายนั้นมีศาลพระภูมิสีเขียวตั้งกันเรียงรายอยู่ 3 ต้น โดย 2 ต้นแรกถูกท่อนไม้สักโค่นลงมาทับพังเสียหาย ส่วนศาลพระภูมิอีกต้นหนึ่งที่อยู่ติดกันกลับไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด และทราบว่าศาลพระภูมิต้นนี้เป็นศาลของเจ้าปู่อินทร ที่ชาวบ้านในชุมชนละแวกนี้ต่างให้ความเคารพศรัทธาเป็นอย่างมาก
ด้านนางสุรีย์รัตน์ ใจกล้า อายุ 45 ปี เพื่อนบ้านผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนที่ฝนหยุดตก ตนก็ได้พาหลานสาววัย 4 ขวบ ออกมาวิ่งเล่นที่บริเวณหน้าบ้าน ซึ่งอยู่ติดกับบ้านของ น.ส.สุมาลี แต่ในขณะที่หลานกำลังวิ่งไปมาอยู่นั้นจู่ๆ ท่อนไม้สักก็หักออกมาจากต้น แล้วร่วงลงมาแบบชนิดเฉียดหลานไปเพียงแค่นิดเดียวก่อนจะไปหล่นทับหลังคาของเพื่อนบ้านเสียงดังสนั่นหวั่นไหว โดยในช่วงจังหวะนั้นตนถึงกับตกอกตกใจอย่างหนัก เพราะว่ามันเป็นภาพที่น่ากลัวมาก แต่ในความเคราะห์ร้ายยังถือว่าโชคดีอยู่ที่หลานของตน และลูกทั้ง 2 ของ น.ส.สุมาลี ไม่ได้รับอันตราย ซึ่งตนเชื่อว่าน่าจะเป็นเพราะบารมีของศาลเจ้าปู่อินทรช่วยปกป้องคุ้มภัยไม่ให้คนในชุมชนได้รับอันตราย เนื่องจากที่ผ่านมาทุกครั้งที่กิ่งก้านของไม้สักต้นนี้หักลงมาก็ไม่เคยมีใครในชุมชนได้รับบาดเจ็บเลยสักคน

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่







