กฟผ.เปิดชาร์จรถอีวีฟรี ถึงสิ้นเดือนเม.ย. ร่วมปั๊มพีที เปิดอีเล็กซ์ บาย อีเกท คิกออฟ เตรียมขยายเข้ารพ. สนามกอล์ฟ ห้าง โรงแรม ปีนี้รวม 48 แห่ง
นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ.ได้ร่วมมือกับสถานีบริการน้ำมันพีที เปิดให้บริการปั๊มชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยานยนต์ไฟฟ้า(อีวี) ของกฟผ. หรืออีเล็กซ์ บาย อีเกท ในปั๊มน้ำมันเป็นครั้งแรกในไทย จำนวน 5 สถานี อาทิ ปั๊มพีที สาขาปากช่อง 3 นครราชสีมา เขาย้อย เพชรบุรี พยุหะคีรี นครสวรรค์ บางพระ ชลบุรี บ้านใต้ กาญจนบุรี โดยจะให้บริการประชาชนชาร์จไฟฟ้าฟรีถึงสิ้นเดือนเมษายนนี้ เพื่อเป็นของขวัญวันปีใหม่ไทยช่วงสงการนต์นี้ ครอบคลุมสถานีชาร์จอีวี ในเขื่อนและสถานีไฟฟ้าของ กฟผ. 13 แห่ง
อ่านข่าว จับตา ‘กฟผ.’ รุกธุรกิจอีวีเต็มสูบ เปิดตัว 4 ผลิตภัณฑ์
“กฟผ. ตั้งเป้าจะขยายสถานีชาร์จไฟฟ้ารถอีวี อีเล็กซ์ บาย อีเกท ในปั๊มพีทีให้ได้ 35 แห่งในปี 2564 จะส่งผลให้กฟผ. มีสถานีชาร์จทั้งหมด 48 แห่งภายในปีนี้ ใช้เงินลงทุนประมาณ 90 ล้านบาท ใช้เงินลงทุนประมาณ 3-5 ล้านบาทต่อสถานี โดยราคาค่าชาร์จไฟฟ้าจะเริ่มจัดเก็บเชิงพาณิชย์ ในเดือนพฤษภาคม 2564 ราคาประมาณ 6-8 บาทต่อหน่วย หรือ 1.30 บาทต่อกิโลเมตร โดยช่วง 3 ปีนี้ กฟผ.จะขยายสถานีชาร์จอีวี ในปั๊มน้ำมันกับค่ายน้ำมันพีทีเท่านั้น และตอนนี้มีสนามกอล์ฟ ห้างสรรพสินค้า โรงแรม และโรงพยาบาลติดต่อเข้ามาเป็นจำนวน ซึ่งจะพิจารณาติดตั้งต่อไป”นายบุญญนิตย์กล่าว
น.ส.นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า กรมฯ ได้ออกมาตรฐานความปลอดภัยการติดตั้งสถานีชาร์จรถอีวีในปั๊มน้ำมัน ตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ 2564 และทุกค่ายที่จะติดตั้งต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยทั้งพื้นที่ติดตั้ง ระยะห่างจากหัวจ่ายน้ำมันและการเชื่อมต่อสายไฟต่างๆ และในอนาคต กรมฯ จะเข้ามีบทบาทมากขึ้น ในการกำกับดูแล รวมถึงการขอใบอนุญาตประกอบกิจการสถานีอัดประจุในสถานีบริการเชื้อเพลิง เพื่อสร้างความเข้มแข็งและสนับสนุนให้เกิดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตด้วย
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ร่วมมือกับ กฟผ. เพื่อขับเคลื่อนพลังงานสะอาด ช่วยลดปัญหามลภาวะทางอากาศ โดยปัจจุบัน พีทีจี มีสถานีบริการน้ำมันพีที มากกว่า 2,100 สาขา ครอบคลุมทั่วประเทศ จำนวนสถานีมากเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศ จึงพร้อมสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศให้มากขึ้น มุ่งเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ทั้งในเมืองและนอกเมือง
