เผยแพร่:
ปรับปรุง:
โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม
MGR Online – ดีเอสไอบุกค้นโกดังนครสวรรค์ ตรวจยึดสินค้าแบรนด์เนมละเมิดเครื่องหมายการค้า กว่า 2 หมื่นชิ้น มูลค่า 100 ล้านบาท พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย ขยายผลแหล่งที่มา
วันนี้ (16 ก.พ.) เวลา 10.30 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ รองอธิบดีดีเอสไอ และผู้แทนสินค้าที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ ร่วมแถลงผลการตรวจค้นโกดังเก็บสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าจำหน่ายผ่านทางเฟซบุ๊ก มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท
พ.ต.ท.กรวัชร์กล่าวว่า สืบเนื่องวันที่ 14 ก.พ. 64 เวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา ดีเอสไอ สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองปลิง และ สภ.นครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ ร่วมกันตรวจคันสถานที่เป้าหมายจำนวน 2 จุด ได้แก่ โกดังให้เช่าเก็บสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร เลขที่ 9/110 ต.นครสวรรค์ออก อ.เมืองฯ จ.นครสวรรค์ และโกดังไม่ทราบเลขที่ ถนนโกษีย ต.ปากน้ำโพ อ.เมืองนครสวรรค์ สถานที่เก็บและจำหน่ายสินค้าที่ละเมิดเครื่องหมายการค้าที่จำหน่ายผ่านทางเฟซบุ๊กให้แก่บุคคลทั่วไป สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย สำหรับผลการตรวจค้นพบสินค้าจำพวกกระเป๋าถือ กระเป๋าสตางค์ แว่นตา นาฬิกา ผ้าพันคอ ซึ่งปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ Fendi, Gucci, Chanel, Louis Vuitton, Rolex, YSL, Christian Dior, Coach, MCM, CELINE, Gentle Monster ได้เป็นจำนวนมากกว่า 2 หมื่นชิ้น รวมมูลค่าความเสียหายหรือมูลค่าตามราคาท้องตลาดกว่า 100 ล้านบาท
พ.ต.ท.กรวัชร์กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ กองคดีทรัพย์สินทางปัญญาได้เฝ้าสืบสวนและติดตามกลุ่มบุคคลลักลอบจำหน่ายสินค้าในลักษณะเป็นผู้ค้าส่งรายใหญ่ และได้ลักลอบนำสินค้าที่ละเมิดเครื่องหมายการค้ามาจากต่างประเทศผ่านด่านชายแดนทางบก และนำมาเก็บไว้ในโกดังเป้าหมายเพื่อรอจำหน่ายให้แก่ผู้ค้าปลีกย่านสำเพ็ง และลูกค้ารายย่อย โดยมีพฤติการณ์การกระทำความผิดเป็นแหล่งค้าปลีกผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยเสนอจำหน่ายสินค้าปลอมคุณภาพเกรด AA และไม่ได้คุณภาพเพื่อหลอกลวงขายให้ผู้สนใจอย่างมีวิธีการที่ผิดกฎหมาย เป็นการกระทำผิดกฎหมายทำลายเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ เนื่องจากการประเทศไทยถูกสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ จัดอันดับประเมินสถานการณ์คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาในประเทศคู่ค้าที่สำคัญของสหรัฐฯ โดยจัดประเทศไทยไว้ในบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา กองคดีทรัพย์สินทางปัญญาจึงได้มีนโยบายในเรื่องการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยเฉพาะเขตพื้นที่สีแดง และเขตพื้นที่ที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มงวดต่อไป