รวบ 3 โจรงัดตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ตำรวจตามไปตะครุบตัวหัวโจกได้ที่ จ.ลำปาง เป็นผู้รับเหมาทำแอร์และเครื่องทำความเย็น อ้างช่วงโควิด-19 ระบาด ไม่มีใครจ้างและติดหนี้นอกระบบ ชวนลูกน้อง 2 คน หลอกว่าจะไปทำงาน แล้วลงมือก่อเหตุใช้แก๊สตัดตู้เอทีเอ็มได้เงินไปร่วม 7 แสนบาท กระทั่งมาถูกจับ
ตำรวจจับกุมโจรงัดตู้เอทีเอ็มเปิดเผยเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 ก.พ. พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง ผบก.ภ.จ.ปราจีนบุรี ตำรวจสืบสวน ภาค 2 สืบสวน ภ.จ.ปราจีนบุรี ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมคนร้ายก่อเหตุงัดตู้เอทีเอ็มมีผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย นายสมนึก จันทร์โฉม อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 หมู่ 5 ต.บ้านแพ้ว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร นายธนจิตต์ โพธิลา อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/1 หมู่ 10 ต.เขากะลา อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ และนายนพรัตน์ ทองชื่น อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 10 ต.เขากะลา อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ พร้อมของกลางรถกระบะ 1 คัน ถังแก๊สพร้อมอุปกรณ์ และเงิน 700,000 บาท
พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 ก.พ. กลุ่มคนร้ายขับรถกระบะมาจอดที่หน้าร้าน “เจ๊รัตน์ เครื่องครัว” ในตลาดไทยประคอง เลขที่ 11 หมู่ 8 ต.กบินทร์บุรี แล้วใช้แก๊สตัดด้านหลังตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ที่ตั้งอยู่หน้าร้าน หยิบเงินสดไปได้ 758,000 บาท ก่อนจะหลบหนีไป
ต่อมาตำรวจชุดสืบสวน ภาค 2 สืบสวน ภ.จ.ปราจีนบุรี และสืบสวน สภ.กบินทร์บุรี ระดมกำลังออกติดตามคนร้ายและตรวจกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายทำทีเข้าไปกดที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารธนชาต หน้าร้านซีเจ ซุปเปอร์มาร์เกต มองไปรอบๆ เมื่อไม่มีคนรีบขนถังแก๊สลงมาจากรถ แล้วเดินไปที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ที่อยู่หน้าร้านเจ๊รัตน์เครื่องครัว ห่างกันประมาณ 10 เมตร จากนั้นลงมือก่อเหตุ ตำรวจรวบรวมหลักฐานกระทั่งรู้ตัวตามไปจับกุมนายสมนึก จันทร์โฉม อายุ 40 ปี และนายธนจิตต์ โพธิลา อายุ 19 ปี ที่ จ.ลำปาง พร้อมเงิน 7 แสนบาท ต่อมาขยายผลไปจับกุมนายนพรัตน์ ทองชื่น อายุ 18 ปี ที่ จ.นครสวรรค์
นายสมนึกสารภาพว่า มีอาชีพรับเหมางานติดตั้งแอร์ และเครื่องทำความเย็นตามร้านค้ามินิมาร์ท มีลูกน้อง 2 คน ในช่วงโรคโควิด-19 ระบาด ตนติดหนี้นอกระบบ และไม่มีเงินจ่ายค่าแรงลูกน้องเป็นเงินหลายแสนบาท นอกจากนี้ ยังไปยื่นขอกู้เงินจากธนาคาร แต่ธนาคารไม่อนุมัติ ก่อนเกิดเหตุตนไปรับเหมาติดตั้งระบบทำความเย็นที่ร้านซีเจ ซุปเปอร์มาร์เกต อยู่ติดกับร้านเจ๊รัตน์ เครื่องครัว เห็นตู้เอทีเอ็มอยู่ใกล้กัน 3 ตู้ วางแผนหลอกลูกน้องจะต้องออกไปทำงานในช่วงดึก เมื่อไปถึงหน้าตู้เอทีเอ็มบังคับให้ลูกน้องทั้ง 2 คนร่วมก่อเหตุในครั้งนี้
นายสมนึกเปิดเผยอีกว่า หลังก่อเหตุตนนำอุปกรณ์การโจรกรรมไปฝากไว้ที่บ้านแม่ จ.สมุทรปราการ แล้วชวนนายธนจิตต์ โพธิลา หนีไปอยู่ที่ จ.ลำปาง ส่วนนายนพรัตน์หนีกลับไปอยู่ที่บ้าน จ.นครสวรรค์ ด้านนายธนจิตต์ โพธิลา เปิดเผยว่า ตนไม่รู้ว่านายสมนึกที่เป็นนายจ้างจะมาก่อเหตุงัดตู้เอทีเอ็ม เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุนายสมนึกบังคับให้ยกถังแก๊สและดูต้นทาง จากนั้นนายสมนึกลงมือใช้แก๊สตัดตู้เอทีเอ็ม หยิบเงินมาได้จำนวนหนึ่งใส่ถุงขึ้นรถแล้วหลบหนี
ต่อมาตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด เพื่อพาทรัพย์หลบหนี หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์
