ปส.แถลงจับ 3 คดียาเสพติด คดีแรกสกัดจับ 2 หนุ่ม กลางถนนมิตรภาพช่วงคลองไผ่ ขณะขับรถกระบะขนยานรกจากชายแดนริมโขง ยึดยาบ้า 3.2 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 520 กก. คดีที่สองตามรวบ 2 หนุ่มเหนือ สมคบค้ายาไอซ์-ยาเค บิ๊กลอตที่นครสวรรค์ปี 63 ยึดทรัพย์สินต่างๆมูลค่ารวม 23 ล้านบาท คดีสุดท้ายจับ 2 ผัวเมีย เครือข่ายเจ้ปู ยึดกัญชา 400 กก. อายัดทรัพย์รถยนต์ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างกลางเมืองโคราช มูลค่า 2.5 ล้านบาท ขณะที่นักเสพยังเริงร่า ตำรวจ สน.ทองหล่อ บุกจับแก๊งนักเที่ยวพีอาร์พริตตี้ สุมหัวเช่าบ้านหรูย่านสุขุมวิท เรียกนายแบบดีเจมาสร้างความบันเทิงในปาร์ตี้ยาเค
ปส.แถลงจับแก๊งค้ายาเสพติด 3 คดี โดยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 ก.พ. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง ผบก.ปส.1 พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ปส.2 พล.ต.ต.บรรพต มุ่งขอบกลาง ผบก.ปส.3 ร่วมแถลงจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 3 คดี ผู้ต้องหา 6 คน ยาบ้า 3.24 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 520 กก. และกัญชา 400 กก.
พล.ต.ท.มนตรีกล่าวว่า คดีแรกจับกุมนายชัยวิชิต บุดสีดี อายุ 30 ปี และนายณัฐพล เอี้ยงกัณหา อายุ 27 ปี ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จับได้ที่ป้อมตำรวจทางหลวงคลองไผ่ ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา พร้อมยาบ้า 3.24 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 520 กิโลกรัม รถกระบะเชฟโรเลตตู้ทึบ ทะเบียน ผห 5625 ชลบุรี หลังทราบว่ามีกลุ่มผู้ค้าลำเลียงยาเสพติดจากแนวชายแดน ริมแม่น้ำโขง จ.นครพนม ไปส่งให้ลูกค้าใน กทม.และปริมณฑล ได้จัดกำลังประจำจุดตามเส้นทางที่รถลำเลียงยาเสพติดวิ่งผ่าน กระทั่งพบรถยนต์เป้าหมายขับไปตามถนนมิตรภาพ เข้าสู่ อ.เมืองนครราชสีมา และวิ่งต่อไปยัง อ.สีคิ้ว ได้ประสานด่านตรวจยานพาหนะสีคิ้ว ตำรวจตู้ยามทางหลวงคลองไผ่ เข้าสกัดจนรถหยุดก่อนจับกุม 2 ผู้ต้องหาได้ สอบสวนทั้งคู่รับสารภาพ อ้างทำเป็นครั้งแรกรับจ้างขนในราคา 3 หมื่นบาท สั่งเร่งขยายผลถึงผู้สั่งการ คาดว่าเป็นเครือข่ายใหญ่
ผบช.ปส.กล่าวต่อว่า คดีที่ 2 จับกุมนายวีระชัย ยิ่งคุณ อายุ 38 ปี และนายประสิทธิ์ศักดิ์ หรือเก๊า แซ่เห่อ อายุ 41 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และได้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดตามที่ได้สมคบกัน ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต จับนายวีระชัยได้หน้าบ้านเลขที่ 132 หมู่ 6 ต.สันสลี อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ส่วนนายประสิทธิ์ศักดิ์จับได้หน้าบ้านเลขที่ 159 หมู่ 1 ต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่
พล.ต.ท.มนตรีกล่าวว่า การจับกุม 2 ผู้ต้องหา สืบเนื่องจากการจับกุมเครือข่ายนายอภินันท์ ทัพพุ่ม พร้อมผู้ต้องหา 6 ราย ได้ที่ จ.นครสวรรค์ เมื่อปี 63 พร้อมยาไอซ์ 100 กก. เคตามีนอีก 150 กก. เจ้าหน้าที่ได้ยึดทรัพย์สินนายวีระชัย เป็นเอกสารการซื้อขายที่ดินสวนลำไย เนื้อที่ 26 ไร่ ราคาประมาณ 1.5 ล้านบาท รถยนต์ 2 คัน มูลค่า 1.3 ล้านบาท รวมมูลค่า 2.8 ล้านบาท ยึดทรัพย์สินนายประสิทธิ์ศักดิ์ เป็นเอกสารการครอบครองที่ดินทำกิน เนื้อที่ 60 ไร่ ราคารวมประมาณ 12 ล้านบาท อาคารที่พักอาศัยชั้นเดียว พร้อมสิ่งปลูกสร้างใช้สอย ราคาประมาณ 1 ล้านบาท รถเก๋งและรถกระบะรวม 7 คัน ราคาประมาณ 4.3 ล้านบาท รถไถยี่ห้อคูโบต้า ราคา 700,000 บาท เงินสด 3.94 ล้านบาท ท่อนไม้และไม้แปรรูปต้นจำปีขาว และไม้หวงห้ามจำนวนมากมูลค่า 1 ล้านบาท รวมทรัพย์สินที่ยึดไว้ตรวจสอบ มูลค่ากว่า 23 ล้านบาท
ผบช.ปส.กล่าวต่อว่า คดีที่ 3 จับกุมนางกมลวรรณ คามรักขิด หรือเจ๊ปู อายุ 35 ปี และนายกอบชัย คามรักขิด อายุ 40 ปี 2 ผัวเมีย ข้อหา “ร่วมกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” พร้อมของกลางกัญชา 400 กิโลกรัม หลังสืบสวนทราบว่ากลุ่มผู้ค้ายาเสพติดเครือข่ายเจ๊ปู จะลอบลำเลียงจากชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่พื้นที่ตอนใน โดยพบว่าเครือข่ายเจ๊ปูนำรถกระบะซุกซ่อนกัญชามาจอดไว้ริมถนนใกล้โรงเรียนบ้านสามขามิตรภาพที่ 3 ต.คำป่าหวาย อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร ก่อนขยายผลจับนางกมลวรรณและนายกอบชัย ได้ที่หน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมืองนครราชสีมา พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบ อาทิ รถยนต์ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างใน อ.เมืองนครราชสีมา รวมมูลค่าทรัพย์สิน 2.5 ล้านบาท
พล.ต.ท.มนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า เครือข่ายยาเสพติดได้เปลี่ยนเส้นทางลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาทางภาคอีสานมากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงด่านตรวจความมั่นคง โดยจะพยายามซุกซ่อนในรถกระบะ หรือรถบรรทุกที่มิดชิดคล้ายลักษณะรถขนของทั่วไป ทั้งนี้เจ้าหน้าที่อาศัยการข่าว และเพิ่มวิธีการสืบสวนเชิงลึกในการติดตามจับกุมสกัดกั้นอย่างเต็มความสามารถ
ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 01.30 น. พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.ท.ณัฐกิตติ์ จอกโคกสูง รอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ พ.ต.ต.อิธิธร ประเสริฐศักดิ์ สว.สส.สน.ทองหล่อ นำกำลังฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ ตรวจค้นบ้านเลขที่ 91 ซอยสุขุมวิท 49 แยก 19 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. หลังสืบทราบว่าลักลอบจัดปาร์ตี้เสพยาเสพติด ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวตกแต่งหรูหรา สูง 3 ชั้น มีสระว่ายน้ำ บนเนื้อที่เกือบ 100 ตารางวา บนชั้น 2 พบกลุ่มชายหญิงอายุ 22-51 ปี 10 คน เป็นชาย 6 คน หญิง 4 คน จับกลุ่มมั่วสุม เปิดเพลงให้จังหวะกันสนุกสนาน ไม่เว้นระยะห่าง หรือสวมใส่หน้ากากอนามัย ตำรวจสั่งให้ปิดเพลงเปิดไฟและควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สน. พร้อมของกลางยาเค 0.7 กรัม อุปกรณ์สำหรับเสพ
พ.ต.อ.ดวงโชติกล่าวว่า ผู้ต้องหามี 2 กลุ่ม กลุ่มแรก 7 คน เป็นนักเที่ยว พริตตี้ และพีอาร์ คือ นายเอกอนันต์ ตติยกาญจน์ อายุ 31 ปี นายอมรวิช ถนอมพล อายุ 39 ปี นายพิเชษฐ เชื้อสมชาติ อายุ 46 ปี น.ส.แพรวโพยม แย้มประเสริฐ อายุ 24 ปี น.ส.เจนจิรา ขำต้นวงษ์ อายุ 32 ปี น.ส.เรืองลัดดา วงศ์สมศรี อายุ 22 ปี น.ส.ศรีนวล บุญทศ อายุ 28 ปี ทั้งหมดตรวจพบสารเสพติดในปัสสาวะ อีก 3 คน คือนายอภิเดฐ์ ศิริเวช อายุ 23 ปี นายอิทธิพร ก่อวาณิชกุล อายุ 24 ปี นายณัฐกฤต น้อยมีเชาว์ อายุ 51 ปี เป็นนายแบบจากบาร์โฮสต์ และดีเจ 1 คนที่ถูกจ้างมาให้บริการชงเหล้า เปิดเพลง ไม่พบสารเสพติดในร่างกาย สอบสวนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหา 7 คน เป็นเพื่อนทำงานกลางคืน ตกงานตั้งแต่ปิดสถานบันเทิงในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตระเวนเช่าบ้านย่านเลียบทางด่วนรามอินทราและเตาปูน มั่วสุมจัดปาร์ตี้ยาเสพติด ติดต่อนัดแนะกันผ่านไลน์ ครั้งนี้ตัดสินใจรวมเงินกันเช่าบ้านพักในราคา 10,000 บาท จ้างดีเจกับนายแบบวาบหวิวมาสร้างความสนุก ส่วนยาเสพติดซื้อมาจากนายบี ไม่ทราบชื่อ นามสกุลจริง อยู่ระหว่างขยายผล ส่วนเจ้าของบ้านอยู่ระหว่างการเรียกมาสอบสวน หากพบว่ามีส่วนรู้เห็นก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วย