สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือจิสด้า เผยภาพถ่ายจากดาวเทียมสำรวจพื้นที่น้ำท่วม สำรวจล่าสุดวันที่ 8 ต.ค. 64 พบว่าพื้นที่ในภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางและภาคตะวันออก ถูกน้ำท่วมไปแล้วกว่า 1,000,000 ไร่ โดยที่จังหวัดนครสวรรค์ หนักสุดมีพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมเกือบ 300,000 ไร่ รองลงมาเป็นจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถูกน้ำท่วมไปกว่า 200,000 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่การเกษตร พื้นที่ลุ่มต่ำ ทุ่งรับน้ำ พื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำสายหลัก และที่อยู่อาศัยบางส่วน
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตำบลพยุหะคีรี อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและมอบสิ่งของเยียวยาประชาชนผู้ประสบภัยจากอุทกภัย จำนวน 500 ชุด ให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ แม้ว่าตอนนี้ในหลายพื้นที่ในจังหวัดนครสวรรค์ สถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายบ้างแล้วแต่พื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่การเกษตร บางจุดยังมีน้ำท่วมสูงอยู่ อีกทั้งยังต้องเฝ้าระวังในอีกหลายอำเภอ คือ อำเภอเมืองนครสวรรค์ อำเภอโกรกพระ อำเภอพยุหะคีรี และอำเภอชุมแสง เนื่องจากกรมชลประทาน ยังปล่อยน้ำเข้าทุ่งบริเวณพื้นที่ว่างเหนือเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อชะลอน้ำที่จะไหลเข้าท่วมพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง ส่งผลให้ชุมชนริมตลิ่งนอกคันกั้นน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จะได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างในหลายชุมชน ทั้งนี้จังหวัดนครสวรรค์ ได้ประกาศเขตที่ได้รับผลกระทบและเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 15 อำเภอ 115 ตำบล 1,128 หมู่บ้าน 25 ชุมชน 54,134 ครัวเรือน
ที่จังหวัดอ่างทอง ที่ก่อนหน้าที่พนังกั้นน้ำบริเวณริมคลองถนนทางหลวงชนบท หมายเลข 2034 สายอ่างทอง-ไชโย ตำบลจระเข้ร้อง อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง ชำรุดเสียหายทำให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ล่าสุดเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงชนบทอ่างทอง และทหารกองพัน ร.31 พัน3 รอ. จังหวัดลพบุรี นำเครื่องจักรกลพร้อมรถเครนขนาดใหญ่มาซ่อมแซมจุดที่พัง โดยใช้เครนยกถุงบิ๊กแบกขนาดใหญ่ที่บรรจุกระสอบทรายขนาดเล็กภายในนำไปวางตรงจุดที่ชาวบ้านได้ทำการตอกเสาเข็ม เพื่อทำพนังกั้นน้ำไม่ให้ไหลเอ่อล้นไปยังถนนสายเอเชีย
นางสาวรัตติกร ทองบุญตน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ตำบลตรีณรงค์ อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง บอกว่าตนเองและลูกบ้านต้องช่วยกันบรรจุกระสอบทรายมากั้นไม่ให้ลงทุ่งสร้างความเสียหาย แต่ก็ทำได้เพียงเล็กน้อยเพราะกระแสน้ำที่ไหลเชียว อีกทั้งหากล่าช้าในการซ่อมแซมจะส่งผลกระทบอีก 3 อำเภอ ในจังหวัดอ่างทอง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดลพบุรี ที่จะต้องรับมวลน้ำดังกล่าว
ขณะที่วานนี้ (9 ต.ค. 64) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ชุมชนวัดกษัตราธิราชวรวิหาร / มัสยิดฟารุกอุมาร็อบนุลคอบต๊อต อัลกอดีรียะห์ (ชุมชนชาวอิสลาม ตำบลบ้านป้อม) และชุมชนวัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่เกิดขึ้น
โดยนายอนุทิน กล่าวว่าในสัปดาห์หน้าจะหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ถึงแนวทางระบายน้ำ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างถาวรโดยเฉพาะการปรับปรุงถนนสายเอเชีย ให้มีระบบระบายน้ำและรองรับน้ำได้ดีกว่าเดิม เพื่อช่วยลดความเสียหายที่เกิดขึ้น ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีชุมชนได้รับผลกระทบกว่า 30,000 หลังคาเรือน ใน 10 อำเภอ และ 15 ตำบล พร้อมได้กำชับให้เฝ้าระวังพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และคลองโผงเผง
ที่จังหวัดนนทบุรี ชุมชนวัดแคนอก ซอยนนทบุรี 23 ตำบลบางกระสอ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี หลังปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ล้นตลิ่ง ไหลเข้าท่วมชุมชนวัดแคนอก ปริมาณน้ำสูงประมาณ 30 – 70 เซนติเมตร ถือว่าสูงที่สุดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้ชาวบ้านต้องนำเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำระบายออก ป้องกันความเสียหายในบ้านเรือน จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่บอกว่าน้ำเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 1 วัน ท่วมสูงกว่า 30 เซนติเมตร ทำให้ชาวบ้านในซอยนนทบุรี 23 เดินทางเข้า-ออกลำบาก ต้องหาเครื่องสูบน้ำและกระสอบทรายมาช่วยเหลือกันเอง







