วันที่ 31 สิงหาคม ภายหลัง 4 ฝ่าย ได้แก่ ตำรวจ อัยการ ฝ่ายปกครอง และแพทย์ ลงความเห็นร่วมกันว่า นายจิระพงศ์ หรือมาวิน ธนพัฒน์ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหายาเสพติด เสียชีวิตจากการ “ขาดอากาศหายใจ” เนื่องจากถูกคลุมด้วยถุง 6 ชั้น
บรรยากาศที่หน้าห้องเกิดเหตุคลุมถุงดำผู้ต้องหา หรือ “บ้านกาแฟ” ภายในห้องปฏิบัติการ ชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองนครสวรรค์ ตั้งแต่ช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ยังคงกั้นแนวเขตห้ามเข้าออก เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าไปด้านใน ขณะที่ด้านหน้า ที่เป็นห้องปฏิบัติงานสายตรวจ งานป้องกันปราบปราม สภ.เมืองนครสวรรค์ มีตำรวจสายตรวจหลายนายปฏิบัติงานตามปกติ
สภ.เมืองนครสวรรค์ปิดทับภาพ-ชื่อ ผกก.โจ้
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึง การทำงานของตำรวจชุด 05 ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดขึ้นยังปฏิบัติหน้าที่อยู่หรือไม่ ทราบข้อมูลว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ไม่พบเห็นชุด 05 ที่เหลือมาปฏิบัติหน้าที่ เช่นเดียวกับป้ายชื่อทำเนียบผู้บัญชาสถานีตำรวจจังหวัดนครสวรรค์มีการเอาสติกเกอร์สีแดงมาปิดทับชื่อและภาพ พันตำรวจเอกธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผกก.โจ้ ส่วนที่จอดรถของ ผกก. ยังถูกปล่อยว่าง ไม่มีรถของใครมาจอดแทนที่
สอบตำรวจ 7 นาย ยังไม่ออกหมายจับเพิ่ม
ด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผบก.ป. คณะทำงานพนักงานสอบสวนในคดี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สอบปากคำตำรวจ ชุด 05 ที่เหลือแล้ว 7 ราย ถึงประเด็นเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ เบื้องต้น ยังไม่พบบุคคลใด เข้าข่ายร่วมกระทำผิดกับแก๊งอดีตผู้กำกับโจ้ ยังไม่มีการออกหมายจับใครเพิ่ม เนื่องจากยังต้องเรียกทั้งหมดมาสอบปากคำเพิ่มเติมต่ออีกในบางประเด็น โดยตอนนี้ทราบเพียงว่า ทั้ง 7 คน ยังคงมาทำงานตามปกติและไม่พบว่ามีคำสั่งให้ย้ายไปทำงานที่ห้องไหน ส่วนวันนี้จะเรียกสอบพยานรายอื่นอีก 10 ราย
รอง ผบก.ป.ยืนยันคดีไม่ยาก มีหลักฐานชัดเจน
“คดีนี้ไม่ยาก เนื่องจากมีหลักฐานสำคัญคือ กล้องวงจรปิด ที่บ่งบอกถึงพฤติกรรมที่ชัดเจน และไม่รู้สึกกังวล ว่าทนายความของผู้ต้องหาจะใช้ประเด็นเจตนาฆ่า หรือ ไม่เจตนาฆ่า ในการต่อสู้ชั้นศาลหลังผลชันสูตรศพออกมา เพราะเป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่จะให้การอย่างไรก็ได้ ซึ่งวันนี้จะเข้าร่วมสอบสวนการชันสูตรพลิกศพพร้อมกับอัยการตามที่ รองอธิบดีอัยการภาค 6 สั่งการมาเมื่อวานนี้ ส่วนในเรื่องการเอาผิดทางวินัย ทางคณะกรรมการจเรตำรวจจะเป็นผู้รับผิดชอบ ยืนยัน และประชาชนทุกคนมั่นใจได้ว่า คดีจะมีความเป็นธรรม”
อัยการชี้ มาวิน “ไม่ได้ฟื้นคืนชีวิต”
ขณะที่นายพิริยะ วรรธนะมณีกุล อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ปฏิบัติราชการสำนักงานอัยการจังหวัดนครสวรรค์ เปิดเผยว่า มาร่วมกับตำรวจสอบสวน บุคลากรทั้ง 2 โรงพยาบาลที่อยู่ในเหตุการณ์ส่งตัวนายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ หรือ “มาวิน” เข้ามารักษา ซึ่งตอนที่ ผกก.โจ้ ผู้เสียชีวิตไปส่งโรงพยาบาลพริ้นซ์ ปากน้ำโพ นั้น พบว่า นายจิระพงศ์ ธนพัฒน์ ผู้เสียชีวิตไม่รู้สึกตัว และไม่มีชีพจร แพทย์จึงต้องใช้อุปกรณ์ พร้อมกับฉีดยากระตุ้น เพื่อให้มีสัญจรชีพ ซึ่งถึงแม้ในตอนนั้น นายจิระพงศ์ จะกลับมามีสัญญาณชีพแล้ว แต่ก็ถือว่าไม่ได้ว่าฟื้นคืนชีวิต เพียงแต่เขาสามารถฟื้นคืนชีพจร(ด้วยเครื่องมือแพทย์) ส่วนข้อมูลของบุคคลปล่อยคลิปเหตุการณ์ที่ทนายษิทราเผยแพร่ นายพิริยะ มีความเห็นว่า ไม่มีความจำเป็นต้องไปหาตัวคนปล่อยคลิป เพราะหากนำคลิปดังกล่าวไปพิสูจน์ว่าไม่มีการตัดต่อ ก็สามารถเป็นหลักฐานสำคัญที่จะนำมาใช้ประกอบสำนวนคดีได้
ทนายตั้ม ให้ปากคำ ขอนำคลิปเข้าสู่สำนวน
ขณะเดียวกัน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม แจ้งผ่านเฟซบุ๊ก ว่า ได้รับการประสานจากคณะพนักงานสอบสวนคดีผู้กำกับโจ้ เพื่อให้ปากคำในวันที่ 31 ส.ค เวลา 18.00 น. ที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ พร้อมขอให้นำคลิปหลักฐาน ที่มีการเผยแพร่เข้าสู่สำนวนการสอบสวน







